“อาซิ้ม” ปากหมาปะทะ “เจ๊เกลือแอ๊บแบ๊ว”

พูดถึงเรื่องดาราเกลียดหนังหน้ากัน จนเปิดศึกเกาหลาด่ากันออกสื่อ มันมีออกมาให้สมเพชกันอยู่บ่อยๆ ร้อยทั้งร้อยหนีไม่พ้นเรื่องแย่งแท่งมหาภัย หรือไม่ก็ชิงดีชิงเด่นกันเองในหมู่ชะนีมายา

อย่างรายล่าสุดที่ประจานตัวเองขึ้นหน้าหนึ่ง ก็ “น้องเสียงใส” กับ “นางเอกหนังหน้าใหม่” ที่เปิดศึกด่ากันผ่านโลกไซเบอร์เหมือนอยากจะประกาศให้โลกรู้ว่า Kra-Door นี้ของตูใครหน้าไหนอย่าได้แหยม!!...จนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่เลิกเอา ปี๊บคลุมหัวเดินแล้วหรือยัง ไม่เหมือนนังลูกปี๊บเปิ๊บไม่ต้องเอามาใส่หัว เอาผัวมาใส่ปิ๊ก็พอ..ฮ่าๆ

อีกคนที่ชอบมีเรื่องมีราวกับชาวบ้านเขาไปหมด ก็ “นางเอกบาร์บี้” แต่คนนี้ถึงจะแหลไปหน่อย แต่ก็ไม่ค่อยตกเป็นข่าวแย่ง Kra-Door ใครซักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยอดอยาก มีเข้ามาให้ลิ้มให้เลียไม่ขาด ทั้งไมค์ “นักร้องดูโอ” ทั้งแท่งทองคำของลูกเจ้าของห้างใหญ่กลางกรุง นี่ยังไม่นับดุ้นนิรนามที่ไม่แสดงตัวแต่แสดงพลังต้าบๆ อีกเป็นตับนับไม่ถ้วน

ก็อย่างว่าแหละ เกิดมาสวย-ขาว-แรด สบายรูไป 18 อย่าง!

ไอ้เรื่องมีผัวโดยส่วนตัวซ้อว่าขำๆ หอยใครหอยมันจัดสรรกันเอาเอง แต่ไอ้นิสัยขี้อิจฉาขาประจำของหล่อนนี่สิ บอกตรงๆ ซ้อรับไม่ได้จริงๆ ว่ะ เดี๋ยวก็อิจฉาคนโน้น ริษยาคนนี้ ป้ายสีคนนั้น ปั่นหัวแฟนคลับหน้าโง่ให้โทร.ไปด่าชาวบ้านไปทั่ว พอคนเขาจับได้ไล่ทัน ก็จะทำหน้ามึนรวมหัวกับผู้จัดการร่วมสายเลือดออกมาปั้นหน้าเศร้าเล่าความ เท็จ ท่องคาถา ไม่รู้ ไม่ใช่ ไม่ได้ทำ มีแต่ไม่ๆๆๆๆๆ

แหม....ทีเรื่องนี้กี่ครั้งกี่คราก็ “โน” มันลูกเดียว แต่พอเรื่องผู้ชายเห็นแม่ม ....เยสๆๆ ตลอด

พฤติกรรมอุบาทว์แบบนี้เล่นเอาคนในวงการเขายี้กันถ้วนหน้า ถึงขนาดจะลงขันกันแบนนางเอกบาร์บี้ให้รู้แล้วรู้รอด จะมีก็แต่คุณป้าทรงผมหน้าม้านั่นแหละ ที่รักนางเอกบาร์บี้จนใครๆ เค้าหมั่นไส้ไม่ทราบจะแหกตูดดมกันไปถึงไหน แต่อย่างว่าแหละเด็กมันกำลังฮอตนี่หว่า อย่าว่าแต่แหกตูดดมเลย ต่อให้แหกตูดเลีย อีป้าก็คงจะยอมกินขี้เพื่อเงินชัวร์ป้าบ

เห็นเด็กๆ มันตีกันยังพอเข้าใจว่า มันเป็นไปตามวัยแอดรินาลีนมันก็ย่อมจะพุ่งพล่านเป็นพิเศษ ไม่เหมือนกับ “อาซิ้ม” หน้าหมวยที่เพิ่งจะมาดังเอาตอนแก่ กับนางเอกเก่าติ๊งต๊องฉายา “เจ๊เกลือแอ๊บแบ๊ว” ที่จู่ๆ ก็มาวิวาทเอาตอนแก่ เห็นแล้วอยากจะเรียกปอเต๊กตึ๊งมาเก็บไปลงหลุมซะจริงๆ

คู่นี้เพิ่งจะมาเปิดศึกฉะกันมาหมาดๆ ขอบอกว่าหาต้นสายปลายเหตุไม่ได้เกิดจากแย่งสากแย่งกระบองกันเหมือนเด็กๆ แต่เหตุเกิดจากปากเน่าๆ ที่เห่าไม่เลือกที่ของอาซิ้มมากกว่า ทำเอาเจ๊เกลือแอ๊บแตกเกือบจะเอารองเท้าส้นเข็มทิ่มไปที่ปากเท่ารูตูดของอีอา ซิ้มซะแล้ว

เหตุเกิดที่ผับดังแห่งหนึ่งขณะที่นักร้องแก่ไปเป่าไมค์ร้องเพลงหากิน ตามประสาหญิงเหี่ยวที่ต้องหาเลี้ยงตัวเอง ซึ่งก็เป็นที่รู้กันด้วยความที่เป็นผู้หญิงกร้านโลก นอกจากจะตระเวนร้องเพลงมอบความสุขให้คนฟังทั่วราชอาณาจักรแล้ว คาแรกเตอร์ หรือแถวบ้านเรียกว่า “สันดานสดๆ” ของอาซิ้มนั้นยังเป็นประเภทปากหมา ลามก ชอบพูดจาเรียกร้องความสนใจ โดยเฉพาะไอ้มุกจกผู้ชายแต่จิกชะนี ยังเป็นกลายเป็นโลโก้ที่มีทั้งคนติดใจ และหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน

ในระหว่างที่อาซิ้มแก่กำลังอ้าปากครวญเพลงโว้โวววว... สลับกับพ่นน้ำลายแหย่โต๊ะโน้น แขวะโต๊ะนี้ แซวลามปามสะอกสะใจอยู่คนเดียว จู่ๆ ดวงตาอันลีบเล็กก็ปร๊าด...ไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเปรี้ยวเยี่ยวเล็ด ยืนหันหลังกระดกแก้วแร๊งซะไม่มี เล่นเอาอาซิ้มถึงกับมองตาขวาง ใครกันจะมาเด่นเกินตู เห็นข้างหลังแล้วอยากจะเห็นข้างหน้า แต่พอเห็นข้างหน้าแล้วอยากจะหงายหลัง ต๊าย....นี่มันยายแก่จอมแอ๊บแบ๊วนี่หว่า!?

พอเหลือบไปเห็นของแปลกยุค 2009 ปากหมาๆ ของอาซิ้มที่กระดึ๊บไปแล้วหลายแก้วก็เริ่มเห่าทันที...

“อะโหลเทสๆ ใครก็บอกว่าอาชีพอั๊วะเป็นพวกเต้นกินรำกิน เหมือนพวกกะหรี่แถวสีลมไม่มีผิด จะต่างกันนิดหน่อยก็ตรงที่กระหรี่มันอมไมค์ แต่อีชั้นมันถือไมค์ ได้แต่จับไม่ได้อมมันซ้ากที...” เอื๊อก....

เจอมุกควายโด่แบบนี้เล่นเอาลูกค้าที่มีแต่ผู้ดีถึงกับเงียบกริ๊บ ได้แต่หันมองหน้ากัน เกาหัวแกร๊กๆ อึ้งมุกกร้านโลกของเธอ แต่ยังไม่ทันจะหันไปถามคนข้างๆ ว่ามันพล่ามทำหอยอะไรของมันอะไรวะ นักร้องแก่ก็แจ๋นขึ้นมาอีก...

“แต่วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่มีกะหรี่แก่รุ่นพี่มานั่งดูด้วย” สิ้นเสียงจากไมค์บรรยากาศในผับยิ่งมึนไปกันใหญ่ มีแต่อาซิ้มที่หัวเราะร่วนขำมุกตัวเองอยู่คนเดียว

ตอนแรกๆ เจ๊เกลือก็ไม่ได้ใส่ใจตามประสาคนแก่ที่เซลส์สมองเริ่มเสื่อม คิดไม่ทัน แต่คิดไปคิดมานี่ หันซ้ายหันขวาชะโงกหน้าไปทั่วๆ รุ่นพี่ในวงการในร้าน มันก็มีตูคนเดียวนี่หว่า หนอย...อีหมวยแก่คิดจะลองดีกับนางเอกเก่าเหรอว้า...

ว่าแล้วเจ๊เกลือก็เลิกแอ๊บแบ๊ว สวมบทเป็นเจ๊โหดวัยทอง ลุกขึ้นชี้หน้ามือเท่าสะเอว เรียกให้เด็กในร้านไปลากตัวอาซิ้มมาเคลียร์ อย่ามาพูดจามั่วซั่วไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ ชั้นไม่ย้อม....ไม่ยอม กระทืบเท้าเร่าๆ สตาร์ทเกือกไว้รอเต็มที่

ประกอบกับตอนนั้นถึงช่วงเบรกพอดี อาซิ้มก็เลยอาศัยจังหวะชุลมุนแปลงกายเป็นขอมอ้วน ดำดินหายหัวเข้าไปหนีตายหลังร้าน เด็กเสิร์ฟไปเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกมา ซ้ำยังยืนกอดอกทำปากกล้าขาสั่น บอกว่าไม่เคลียร์ เพราะไม่มีอะไรจะเคลียร์ ทำไมก็แค่แซวเล่นๆ จะไรนักหนา อั๊วะไม่ออกๆๆ สุดท้ายจนผู้จัดการร้านต้องมากราบวิงวอนด้วยตัวเอง ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างก็ไม่ต้องทำมาหาแดกกับร้านกรูอีก ไม่จ้างอีกแล้วโว้ยยย

เท่านั้นแหละ พอพูดเรื่องเงินเป็นอันจบข่าว เล่นมุกนี้อาซิ้มจอมงกก็ต้องยอมแต่โดยดี แก่เหี่ยวอ้วนตันซะขนาดนี้ถ้าไม่หาเงินไว้กินตอนแก่ใครมันจะมาเลี้ยงวะ ไอ้ครั้นจะหวังพึ่งผัวพึ่งลูกก็คงไม่ทันแล้วแหละ เมนส์จะหมดมดลูกจะหย่อนอยู่แล้ว คงไม่มีปัญญาทำพันธุ์ได้แน่

ว่าแล้วอาซิ้มก็ปั้นหน้าเป็นแป๊ะยิ้มรีบตามหลังผู้จัดการไปติดๆ ก่อนจะออกไปยกมือไหว้ประหลกๆ หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจด่าเจ๊เลยนะ หนูแค่ปากเน่าแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นสันดานที่แก้ไม่ตก เจ๊ได้โปรดอย่าถือโทษโกรธหนูเลยนะ พร้อมกับตีหน้าเศร้าดราม่าใส่สุดฤทธิ์ ถ้าบีบน้ำตาหยดติ๋งๆ อีกนิดนึง คงไปเล่นละครร้องเพลงบรอดเวย์ได้แล้ว โว้โววววววว...

แต่ถึงแม้จะลงทุนลดศักดิ์ศรีลงมาขอโทษ แต่เจ๊เกลือก็ยังของขึ้นไม่เลิกชี้หน้าด่าซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้างวกไปวนมาตามประ สาคนติ๊งต๊อง เล่นเอาขำกันถ้วนหน้า กว่าเจ๊แกจะหาที่ลงได้เล่นเอาเยี่ยวปิ๊ดกับเกือบทั้งผับ

แต่ที่ขำไม่ออกเห็นจะเป็นอาซิ้มปากหมา เพราะหน้าหงายอายเขาไปทั่ว ได้แต่พยักหน้างึกๆ ซ่าส์ไม่ออก พอเจ๊แกด่าจบอาซิ้มก็รีบเก็บปากใส่ตะกร้าครอบกลับบ้านไปเลย

เกาเหลาของพวกประจำเดือนใกล้จะหมดวาระนี่มันน่าอายกว่าเด็กตีกันเป็นไหนๆ แฮะ

สมน้ำหน้าซ่านัก ทีนี้อาซิ้มคงจะสำนึกแล้วสินะว่า มีปากไว้อมไมค์ปลอดภัยที่สุด...

“นักร้องบูลด็อก” มิสเตอร์อม! ของ “หนุ่มชาวเขา”

สมัยนี้จะหาผู้ชายมาทำผัวนับว่าเป็นเรื่องยากซะจริงๆ เพราะไอ้ที่ดีๆ ส่วนใหญ่ก็ถูกซิวไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนไอ้ที่เหลืออยู่ๆ ก็ไม่ค่อยจะน่ารีดน้ำเชื้อซักเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่เจ้าชู้บรรลัยก็เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วซะหมด

ขืนไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดี มีสิทธิ์โดนตอตำดากตายคาเตียง

ยิ่งผู้ชายที่อยู่ในวงการบันเทิงยิ่งต้องระวัง ใครที่คิดจะเอาคนพวกนี้มาทำซะมีแล้วล่ะก็ แค่มองด้วยตาเปล่าคงไม่พอ ต้องเอาแว่นขยาย หรือไม่ก็เอากล้องจุลทรรศน์มาส่องดูตามซอกหลืบด้วย โดยเฉพาะหลืบที่อยู่ทางด้านหลังต้องเล็งให้ดีว่า มีน้ำขาวๆ ติดแทนขี้เหลืองๆ อ๊ะเปล่า ไม่งั้นผัวของเราอาจจะกลายเป็นเมียคนอื่นได้

ดูอย่าง “นักร้องอัลเทอร์เนทีฟ” สิ หน้าตายังกับหมาบูลด็อก แต่งตัวก็แนวซะไม่มี ร้องเพลงแต่ละทีก็มันสะใจโจ๋เท่เหลือหลาย แต่พอลงจากเวทีก็กลายพันธุ์เป็นชะนีไปซะงั้น ข่าวเรื่องนักร้องบูลด็อกเป็นเกย์ร่ำลือกันมานานแล้ว แต่พึ่งจะมาเป็นประเด็นเมื่อไม่นานมานี้ หลังมีข่าวว่า นักร้องบูลด็อกแอบควง “หนุ่มน้อยออกัส” ไปสร้างตำนานรักแห่งสยามที่ประเทศญี่ปุ่น

ความจริงแล้วคู่นี้เขาปิ๊งกันจริงๆ และเกือบจะสปาร์กกันชั้บๆ แล้ว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะคลำไปคลำมาดันแต๊บด้วยกันทั้งคู่ งานนี้ก็เลยวงแตกสิฮ้า....

หนุ่มน้อยออกัสนั้น สมัยที่อยู่เชียงใหม่เป็นที่รู้กันดีว่า เป็นตำนานตุ๊ดแห่งเชียงใหม่ ชอบใส่ขาสั้นรัดไข่เที่ยวไล่จิกผู้ชายไปทั่ว ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นสาวไม่ได้เป็นเกย์จะได้แบ่ง “รับ” แบ่ง “สู้” ทูอินวัน ด้านนักร้องบูลด็อกที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นปริศนา ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าพี่แกชอบข้างล่างหรืออยู่ข้างบน แต่ล่าสุดความลับก็มาแตกเต็มเป้า

เหตุเกิดขณะที่ซ้อกำลังนั่งๆ นอนๆ รอเพื่อนสาวกะเทยควายที่ไปนวดสปาอยู่ข้างบน จู่ๆ นักร้องบูลด็อกก็ใส่แว่นดำเปิดประตูพรวดเข้ามาเล่นเอาซ้อแทบจะตกเก้าอี้ตาย ต้องขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าใช่พี่บูลด็อกหรือเปล่า เพราะสปาที่ว่านี้ไม่ใช่สปาธรรมดา หากแต่เป็นสปาผู้ชายที่ให้บริการทั้งนวดทั้งนาบไปพร้อมๆ กัน และที่สำคัญคนที่นวดก็เป็น “ผู้ชาย” อีกต่างหาก งั้นก็ชัดเจนว่าหมอนี่มาซื้อไส้อั่วกินชัวร์ป้าบ

พอมาถึงนักร้องบูลด็อกก็ตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์พูดจาสองสามคำก็ควักกระเป๋า จ่ายตังค์รีๆ รอๆ อยู่หน้าเคาน์เตอร์ไม่นาน ก็มีเด็กหนุ่มผิวขาวเดินออกมาจากข้างหลัง ผายมือให้นักร้องบูลด็อกเดินนำ ก่อนจะหายขึ้นไปข้างบน ไม่บอกก็รู้ว่างานนี้เริ่มต้นจากการผายมือ แต่ต้องไปจบตรงการสำรวจที่ “ผายลม” กันแหงๆ

ว่าแล้วซ้อก็กระโดดเด้งดึ๋งลุกไปที่เคาน์เตอร์ทันที เอ่ยปากแบบหน้ามึนๆ ว่า นั่งรอเพื่อนนานอยากจะขอนวดบ้าง เล่นเอาพนักงานถึงกับงงเมื่อกี๊ยังนอนเป็นอีช้างตายซากอยู่บนโซฟา อยู่ดีๆ ดันตกมันซะงั้น แต่ไม่ทันที่พนักงานจะเอ่ยปากซ้อก็ชิงก่อน แต่เดี๊ยนขอเป็นน้องคนเมื่อกี๊นะคะ ว่าแล้วก็ควักบัตรเตรียมรูด นึกขึ้นได้เกิดผัวเช็กต้นขั้วมีหวังโดนตบสลบ ว่าแล้วก็เลยหยิบเงินสดจ่ายค่าออฟผู้ชายมือไม้สั่นงั่กๆ ตายๆ ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่จะได้หิ้วผู้ชายก็วันนี้ล่ะวะ พูดแล้วก็เสียววาบๆ ที่ท้องน้อย บรรยากาศตื่นเต้นเหมือนตอนเสียสาวใหม่ๆ เลยแฮะ

แต่คึกได้ไม่นาน อีซ้อก็กลับไปนอนแอ้งแม้งเหมือนอย่างเก่า เพราะกว่านักร้องบูลด็อกจะยอมคายผู้ชายออกจากปากก็ล่อไปเกือบ 2 ชม.โทษฐานที่ให้รอซะนาน พอถึงคิวซ้อขึ้นห้องบ้าง คราวนี้แม่ก็เลยปฏิบัติการจกสุดฤทธิ์ อ๊ะๆ อย่าพึ่งเข้าใจผิด ไอ้ที่ว่าจกๆ นี่ จกข้อมูลต่างหากย่ะ

แหม....ใครจะไปบ้ากินขี้ต่อจากคนอื่นยะ

ผลจากการล่อซื้อ ทำให้หนุ่มหน้าขาวยอมเปิดเผยข้อมูลแลกกับเงินสองเท่าว่า รู้จักนักร้องบูลด็อกมานานพอสมควรแล้ว เพราะหมอนี่ชอบมาใช้บริการอยู่บ่อยๆ เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮากันทั้งร้าน โดยเฉพาะ “หนุ่มชาวเขา” ดาวเด่นประจำร้านผู้ที่ได้ขึ้นห้องกับนักร้องบูลด็อกถึงขั้นฝอยไม่หยุดปาก ที่สามารถใช้วิชาฝ่ามืออรหันต์เค้นๆ คลึงๆ จนนักร้องบูลด็อกสติแตก

ว่ากันว่า แรกๆ ที่เข้ามาใช้บริการนั้น นักร้องบูลด็อกค่อนข้างขี้อาย พอถามว่าจะนวดแบบไหน ธรรมดาหรือพิเศษ ก็อึกๆ อักๆ จะตอบว่านวดพิเศษก็ไม่กล้า จะนวดธรรมดาก็ไม่ถึงใจ สุดท้ายพนักงานก็เกรงใจกลัวว่าลูกค้าจะอายก็เลยแนะนำให้นวดธรรมดา โดยจัดหนุ่มชาวเขาดาวเด่นประจำร้านไปคอยให้บริการ

แรกๆ ไอ้หนุ่มชาวเขาก็บีบๆ เค้นๆ ตามร่างกายให้หายปวดเมื่อยตามทฤษฎีหมอนวดทั่วไป แต่พอเริ่มนวดช่วงเอว และบั้นท้ายนักร้องบูลด็อกก็สะดุ้งโหย๋ง ประหนึ่งว่าใครเอามือไปแหย่ตูด เล่นเอาหนุ่มชาวเขาตะหงิดๆ ว่า ไอ้ที่สะดุ้งเพราะนวดแรงหรือไปโดนต่อมอะไรกันแน่ จนกระทั่งนวดไปจนถึงช่วงหน้าขาไล่สูงขึ้นมาเรื่อยๆ ปรากฏว่า งูตาเดียวของนักร้องบูลด็อกก็เริ่มชูคอสู้ คราวนี้หนุ่มชาวเขาก็เลยร้องอ๋อเข้าใจและ ว่าแล้วก็เอ่ยปากขออนุญาตนักร้องบูลด็อก “เดี๋ยวผมนวดพิเสกให้นะครับ”

งานนี้ไม่มีเสียงตอบ มีแต่เพียงงูตาเดียวที่ตั้งตระหง่านสู้มือ จากนั้นหนุ่มชาวเขาก็เริ่มปฏิบัติการรูดๆ คลำๆ จนนักร้องบูลด็อกส่งเสียงครวญครางก่อนจะกระตุก 2 ทีเป็นอันทำนบแตกไปหนึ่งยก

เสร็จคามือซะขนาดนั้น ไม่รู้จะแอ๊บไปหาสวรรค์อะไรแล้วว่ะ ว่าแล้วนักร้องบูลด็อกสติแตกคว้าหนุ่มชาวเขามาจูบจ๊วบๆ โรมรันพันตูเปิดศึกช้างชนช้าง ปล่อยให้งวงบี้กันสุดฤทธิ์ โดยมีหนุ่มชาวเขาเป็นผู้คุมเกมเปิดฉากรุกฆาตจนทั้งคู่เกือบจะทะลักจุดแตก แต่จนแล้วจนรอดนักร้องบูลด็อกก็ได้แต่ครางอู้ยๆ นอนแข็งเป็นสากกะเบือ จะ “อ้า” ก็ไม่ใช่จะ “ค่อม” ก็ไม่เอา เอ๊ะ...มันไงกันหว่า สุดท้ายหนุ่มชาวเขาก็เลยตัดสินใจเอ่ยปากถาม

“จะอี้จะอั้นมันบ่ไหวแล้ว เฉียบเลยม้าปี้”

เท่านั้นแหละนักร้องบูลด็อกถึงตาเหลือก ส่ายหัวไม่เอาลูกเดียวบอก “กลัวเจ็บไม่เอาดีกว่า”

อ้อ...ที่แท้ก็ชอบเสียบ ว่าแล้วไอ้หนุ่มชาวเขาก็แอ่นตูดให้ตะบันเต็มที่

“งั้นเอาเลยปี้....อู๊ย” หนุ่มชาวเขาใส่ซาวนด์เอฟเฟกต์คลอ

แต่โก่งจนลมจะเต็มท้อง นักร้องบูลด็อกก็ไม่ทะลวงลำไส้ซักที ไอ้หนุ่มชาวเขาก็เลยต้องหุบจิ๋มขี้ได้ไว้ชั่วคราว จากนั้นก็ยื่นข้อเสนอครั้งที่ 3 ด้วยการใช้ลิ้นฉกแป๊บๆ จนนักร้องบูลด็อกนั่งไม่ติด ส่งเสียงครวญครางด้วยความพอใจ แหม....ที่แท้ก็ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก

...จังซี่มันต้องถอน!

ว่าแล้วหนุ่มชาวเขาก็ก้มหน้าก้มตาถอนรากถอนโคนนักร้องบูลด็อกอยู่พักใหญ่ จนนักร้องแหกปากลั่นก่อนจะปี่แตกเป็นรอบที่สอง

หลังภารกิจครั้งนั้นเสร็จสมบรูณ์ด้วยปากไปอย่างราบรื่น ไม่นานนักร้องบูลด็อกก็แวะกลับมาใช้บริการหนุ่มชาวเขาเหมือนเดิมอีกหลาย ครั้ง เล่นเอาหลายๆ คนอิจฉา เพราะนอกจากนักร้องบูลด็อกจะใจดีทริปหนักแล้ว ก็ยังได้ชื่อว่าเป็น “มิสเตอร์อม” ใช้บริการแค่ทางปากไม่พิศวาสตูด ใครๆ ก็อยากขึ้นห้องด้วย

แต่ล่าสุดความสัมพันธ์ทางปากของทั้งคู่ ก็มีอันเริ่มห่างกันไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อมีหนุ่มไทใหญ่ลูกพี่ลูกน้องของหนุ่มชาวเขาเข้ามาขายบริการในสปา จนกลายเป็นดาวเด่นประจำร้านไม่แพ้หนุ่มชาวเขา งานนี้นักร้องบูลด็อกก็เลยลองของใหม่ พอลองไปลองมาก็ดันติดใจ เรียกหาแต่หนุ่มไทใหญ่ตลอดเวลา เล่นเอาหนุ่มชาวเขาเกิดอาการไม่พอใจ ฟาดหัวฟาดหางใส่ลูกพี่ลูกน้องอยู่บ่อยๆ

ระวังให้ดีเหอะนักร้องบูลด็อก คนเรารักมาก ก็หวงมาก

เคยได้ยินแต่พม่าฆ่านายจ้าง จะมีชาวเขาฆ่านักร้องก็คราวนี้แหละวะ...

อวสาน “น้องอึ๊บๆ”

ตายๆ โดนถล่มซะหูชาเลยทีเดียว โทษฐานที่แตะคนโปรดของหลายๆ คน ทุกเสียงทุกคอมเมนต์ที่ด่าพ่อล่อแม่ลากไปยังต้นตระกูล อีชั้นขอน้อมรับใส่กบาลไว้เรียบร้อยแล้วจ้า อันนี้ก็ต้องขอขอบคุณแฟนคลับทั้งหลาย ที่ทั้งติทั้งด่ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยไม่ได้นัดหมาย

แหม....พึ่งรู้นะเนี่ยว่า แฟนๆ ทั้งหลายก็ปากจัดไม่แพ้ซ้อเลยทีเดียว

อยากจะด่าอะไรก็ด่าไป แต่อย่าด่าว่าซ้อเหมือน “อาซิ้ม” เป็นอันขาด เพราะรายนั้นกล้าทำแต่ไม่กล้ารับ ไม่เหมือนซ้อ กล้าทำกล้าหน้าด้านรับเว้ย... จะถูกจะผิดก็ขอให้ซัดลงมาแรงๆ

เรื่องบางเรื่องคนเราก็มองต่างมุม ต่างคนต่างความคิด ถ้ามองว่ามันคือรสนิยมทางเพศ ไม่ได้ไปปล้น ไปฆ่า ไปทำชั่ว ไม่ได้เดือดร้อนใคร มันก็ไม่เดือดร้อนใคร แต่ถ้ามองว่ารสนิยมดังกล่าวมันทำให้เกิดการค้าประเวณี ล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรคร้าย และก่อให้เกิดปัญหาสังคม มันก็คือปัญหาอย่างหนึ่งของสังคม

ต่างคนต่างมุมมอง แต่ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร ขอบอกว่า มาตรฐานในการทำงานของซ้อไม่เคยเปลี่ยน พอยต์ของคอลัมน์นี้ ก็คือ “การนำเสนอความจริง” และไม่ว่าความจริงนั้นจะเป็นของใคร หน้าไหน สีไหน ซ้อก็จะยืนหยัดนำเสนอความจริงต่อไป

โบราณเขาบอกว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แรกๆ ซ้อก็ไม่เชื่อหรอก เพราะเห็นพูดความจริงที่ไรก็ตายห่ากันทุกที แต่หลังๆ ชักสังเกตเห็นว่า พวกตอแหลโดนกระชากหน้ากากออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเมียน้อยของพี่ปลวก นางเอกบาร์บี้ ล่าสุดก็อาซิ้มปากหมา ต่างก็โดนถล่มจนเรตติ้งตก

ล่าสุด ก็ถึงคิว “น้องอึ๊บๆ” กระโดดหล่นจากบัลลังก์ซะแล้ว เนื่องจาก “คุณป้าทรงผมหน้าม้า” แบกอัพตัวเอ้ของน้องอึ๊บๆ ใกล้จะหมดอำนาจในการบริหาร ส่งผลให้ตอนนี้ น้องอึ๊บๆ กลายเป็นหมาหัวเน่า ผู้จัดไม่แล แม้แต่เจ้าของรายการที่น้องอึ๊บๆ ร่วมงานด้วยก็เริ่มส่งสัญญาณตัดหางเช่นกัน

ทั้งนี้ เพราะทนกับพฤติกรรมเรื่องมาก วีนแตกของน้องอึ๊บๆ ไม่ไหว ความจริงแล้วไอ้ปัญหาขี้วีนของนางเอกอึ๊บๆ มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยนมพึ่งตั้งเต้า จนกระทั่งโด่งดังเป็นซูเปอร์สตาร์ก็ยังวีนแตกไม่เลิก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้าแหยม เพราะเห็นว่าเป็นคนโปรดของคุณป้าทรงผมหน้าม้าบอสใหญ่ ขืนไปแตะต้องวุ่นวายมีหวังกระเด็นตกผัง

งานนี้ทั้งผู้จัดละคร และเจ้าของรายการก็เลยต้องหยวนๆ ไม่ถือสา คิดซะว่าร่วมงานกับเด็กปัญญาอ่อนก็แล้วกัน

แต่ล่าสุด ก็เกิดเหตุการณ์ให้บอสเจ้าของรายการถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยากจะถีบ น้องอึ๊บๆ ออกจากรายการ เหตุเกิดจากการไปบันทึกเทปรายการต่างจังหวัด ซึ่งปกติแล้วน้องอึ๊บๆ จะไม่ค่อยรับงานภูธร เพราะนอกจากจะคิดถึงผัวขาหน้าซื่อบื้อแล้ว ก็ยังรังเกียจแฟนคลับที่ชอบมาล้อมหน้าล้อมหลัง เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่กองถ่าย ตาสีตาสาจะมาแตะเนื้อต้องตัวหล่อนซี้ซั้วไม่ได้นะคะ คุณนายจะถลึงตาใส่ และมองด้วยความเหยียดหยาม และทุกครั้งที่มีใครสัมผัสโดนตัว พอกลับเข้ารถแม่ก็จะควักแอลกอฮอล์ออกมาเช็ดทุกที

แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ นางเอกอึ๊บๆ ก็เลยต้องยื่นเงื่อนไขทางรายการ ข้อแรกต้องมีรถตู้ส่วนตัว 1 คัน เพราะคุณเธอไม่ต้องการข้องแวะกับใคร และต้องแต่งหน้าทำผมบนรถคันนี้ด้วยอุณหภูมิ 15 องศาเท่านั้น พอแต่งหน้าเสร็จก็จะนั่งแหมะอยู่ในรถตู้นั่นแหละ รอจนกว่าทีมงานจะพร้อมค่อยมาอัญเชิญลงไปทำกระแดะหน้าจอ

เงื่อนไขข้อที่สอง คือ ต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ เป็นการส่วนตัว ห้ามใครเอามาม่า ซกเล๊ก ลาบเป็ด ฯลฯ มาอุ่นร่วมกับน้องอึ๊บๆ เป็นขาด เพราะถ้าคุณเธอได้กลิ่น หรือรู้เข้าจะด่าเช้าด่าเย็นไม่เป็นอันทำงาน กฎข้อนี้เป็นเหตุให้ทีมงานต้องเอากระดาษเขียนชื่อน้องอึ๊บๆ ไปแปะที่อุปกรณ์เหล่านี้ เล่นเอา “พระเอกคมเข้ม” ที่ร่วมรายการด้วยถึงกับส่ายหัวด้วยความเอือม นังนี่มันเรื่องมากตั้งแต่ถ่ายละคร ยันถ่ายรายการเลยว่ะ

พอได้ทุกอย่างที่เลือกสรร น้องอึ๊บๆ ก็จะมุดหัวอยู่ในรถตู้ นอกซะจากว่าจะขี้จะเยี่ยวถึงได้เสด็จออกมาปล่อยของเสียข้างนอก พอออกมาก็ยังไม่วายบ่นร้อนๆ ทำธุระเสร็จก็รีบหุบจิ๋มวิ่งขึ้นรถตู้ทันที เล่นเอาทีมงานหลายๆ คนออกอาการหมั่นไส้ ตากแดดไปเยี่ยวแค่นี้ทำหงุดหงิด คราวหน้าถ้าไม่อยากโดนแดด ก็เปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถส้วมสิยะ

ขนาดเยี่ยวยังเรื่องมาก นับประสาอะไรกับเรื่องอื่น พอนั่งรอทีมงานในรถตู้นานๆ ตะคริวกินจิ๋มหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทำให้จู่ๆ คุณนายอึ๊บๆ ก็เปิดประตูรถตู้ออกอาละวาดเกรี้ยวกราด ด่าแหลกว่าทำงานชักช้า ก่อนจะสรุปสั้นๆ ว่า “ไม่ถ่ายแล้วนะ!” จากนั้นก็สะบัดตูดใหญ่เท่ากระด้งขึ้นรถ ไม่ทันที่ทีมงานกับพระเอกคมเข้มจะกะพริบตา รถตู้คันที่อุณหภูมิ 15 องศาก็แล่นหายไปทันที

เจอของแรงเข้าไปขนาดนี้ ขืนโทร.ไปตามเองมีหวังได้โดนแม่ด่าเปิงแน่ ว่าแล้วโปรดิวเซอร์ก็กดโทรศัพท์ตุ๊ดๆ ต่อสายตรงถึงบอสเจ้าของรายการ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เท่านั้นแหละผู้ใหญ่ก็ปรี๊ดแตกด่าน้องอึ๊บๆ เป็นชุด ก่อนจะตั้งสติโทร.ไปแหลให้น้องอึ๊บๆ กลับมาทำงาน เพราะหมดเงินค่าโปรดักชันไปแล้วถึง 3 แสน ถ้าไม่กลับมาถ่ายจะเกิดการเสียหายกับบริษัท จากนั้นก็กล่าวขอโทษขอโพยที่ทำให้คุณนายต้องรอนาน สุดท้ายน้องอึ๊บๆ ก็เลยกลั้นใจกลับมาปั้นหน้าถ่ายรายการต่อจนจบ

ถึงแม้เหตุการณ์ครั้งนั้นจะจบลงด้วยดี แต่ดูเหมือนว่ากระแสความไม่พอใจของบอสเจ้าของรายการไม่ได้จบลงไปด้วย เรื่องนี้กลายเป็นที่เมาท์กระหึ่มบริษัท ต่อไปถ้าน้องอึ๊บๆ ยังทำตัวงี่เง่าปัญญาอ่อนอีก งานนี้มีสิทธิ์ถูกปลดออกจากรายการแน่

แวดวงรายการโทรทัศน์พึ่งจะรู้สันดานเก่าของน้องอึ๊บๆ แต่แวดวงละครเขารู้ฤทธิ์มานานแล้ว น้องอึ๊บๆ ยอมใครซะที่ไหน สมัยที่เล่นเรื่อง “เมียขี้ข้า” ผู้กำกับสั่งให้เข้าพระเข้านาง ก็เถียงฉอดๆ เล่นบทยั่วยวนไม่ได้ต้องรักษาภาพนางเอก เล่นเอาผู้กำกับปวดกบาล นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ เป็นลูกเป็นหลานคงตบปากแตก แต่ดันเป็นนางเอกชื่อดัง งานนี้ผู้กำกับก็เลยต้องถอยฉาก สั่งให้ผู้กำกับ 2 มาทำหน้าที่

พอสงบสติอารมณ์ได้ ก็กลับมาทำงานต่อ ก็ต้องเจอเรื่องปัญญาอ่อนอีก เมื่อน้องอึ๊บๆ โวยวายไม่ใส่ทองปลอม บ่นว่าคันคอ เดือดร้อนฝ่ายฉากต้องขับรถเข้าเมืองไปหาซื้อทองจริงมาให้น้องอึ๊บๆ ใส่อีก แถมวันดีคืนดีนั่งๆ อยู่เกิดบ้าอยากกินส้มตำปูม้า จะกินเจ้าไหนไม่กินดันอยากจะกินที่พัทยา คนขับรถตู้ก็ต้องบึ่งจากปทุมไปพัทยา กว่าจะไปกว่าจะกลับส้มตำเซ็งกระเดือกไม่ได้อีก

เรื่องมากซะขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่นางเอกชื่อดังป่านนี้เพ่รถตู้คงสกายคิกหน้าหงายไปแล้วล่ะ

นอกบ้านยังวีนแตกได้บัดซบซะขนาดนั้น ในบ้านนี่แทบไม่ต้องพูดถึง รังรักของผัวหน้าซื่อบื้อกับน้องอึ๊บๆ เปลี่ยนคนใช้ทุกเดือนเป็นว่าเล่น บางคนสติแตกอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ลาออก เพราะนอกจากจะรำคาญเจ้าหน้าขี้วีนแล้วก็ยังรับไม่ได้กับสิ่งโสโครกที่ เรี่ยราดอยู่ตามพื้น

ใครจะไปคิดว่านางเอกที่ภาพลักษณ์ดูดี แต่งหน้าสวย แต่งตัวสวย แต่อยู่ในบ้านกลับสกปรกสุดๆ เสื้อผ้ากางเกงในพอถอดได้ก็เหวี่ยงติดฝา แม้แต่ถุงยางพอทำกันเสร็จแทนที่จะเก็บไปทิ้ง กลับทิ้งเรี่ยราดไว้เต็มถุง เดือดร้อนคนใช้ต้องคอยเก็บซากอสุจิเป็นประจำ

เจอเข้าแบบนี้เป็นใครจะไปทนไหว...ไม่ได้มันด้วยนี่หว่า ว่าแล้วคนใช้ก็พากันวอล์กเอาท์ลาออกกันถ้วนหน้า 3 เดือนที่ผ่านน้องอึ๊บๆ เปลี่ยนคนใช้มาแล้วนับ 10 คน

ใครๆ ก็ไม่รักแบบนี้ เห็นทีน้องอึ๊บๆ คงต้องปรับปรุงตัวเป็นการด่วน ไม่ว่าจะเป็นนิสัยซกมก หรือนิสัยขี้วีน ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว คุณป้าทรงผมหน้าม้าไม่สามารถคุ้มกะลาหัวได้อีกต่อไปแล้ว ขืนยังซ่าไม่เลิก อย่าว่าแต่งานหดเงินหายเลย แม้แต่ที่ยืนในวงการ....ก็อาจจะไม่มี

โดย ซ้อเจ็ด

นางเอกแรดเงียบ! สวยแต่รูปจูบแล้วเหม็น

ว่ากันว่า “ความแรด” มันไม่เข้าใครออกใคร ไม่ต้องรอถ่ายทอดทางพันธุกรรม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไรทั้งสิ้น นอกจากความ “คัน” ส่วนตัว บทมันจะคันขึ้นมา ต่อให้เป็นชะนีชั้นสูงแค่ไหน ถ้าลองได้คันแล้ว แม้นนน...เห็นพลี JIM ทู้กกกราย

ไม่เว้นแม้แต่ “นางเอก” ที่เป็นที่รู้กันดีว่าต้องเรียบร้อยเข้าไว้ อดีตจะเน่ามายังไง ก็ต้องหนีบไว้ในซอกหลืบ ห้ามเผลอแรดออกมาเชียว เดี๋ยวความนิยมที่ประชาชนเค้าชมชอบมันจะร่วงหล่นตุ๊บเอา ทีนี้ล่ะมึงเอ๊ยได้กลับไปนอนตบยุงเป็นชะนีขาลงเหมือนหลายๆ คน ที่มีให้เห็นดาษดื่นตอนนี้แหงๆ

ก็เลยไม่แปลกที่แม่นางเอกส่วนมาก เน้นว่าส่วนมากกกกกกก ก็เลยเป็นประเภท “แรดเงียบ” กันทั้งนั้น

จะว่าไปแล้วซ้อก็เห็นใจอยู่หรอกนะ จะให้แรดออกนอกหน้าเหมือนอย่างซ้อก็คงลำบาก ไอ้ซ้อมันเป็นประเภทแทงตรงไม่มีโต๊ดไม่มีเต็ง แรดก็บอกว่าแรด ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เที่ยวสร้างภาพตอแหลกับชาวบ้านว่าหนูเรียบร้อย ทั้งที่จริงๆ แล้ว มีกี่ร้อยๆ ก็กินเรียบหมด มันทุเรศศศศศศศว่ะ

ดูอย่าง “นางงามล่ำเตี้ย” ที่เคยร่วมงานกับ “ลูกทรราช” ยายคนนี้เรียกว่าแหกคอกทุกอย่าง หน้าตาก็หมวยแป้นแล้น มองยังไงก็ไม่ใช่สไตล์นางงาม หันดูช่วงล่างก็โหลดเตี้ย-ตัน จนน่าตกใจว่าคว้ามงกุฎมาได้ไง แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นพฤติกรรมการล่าผู้ชายของหล่อนที่ถึง “ลูก” ถึง “โคน” สุดๆ ไม่ว่าจะผัวใครลูกใคร ถ้าแม่นี่ชอบจะตามไปขยุ้มมันหมดพวง

สาเหตุที่บ้าผู้ชายซะขนาดนั้น จะบอกว่าแรดเป็นการส่วนตัว มันก็ถูกแค่ครึ่งหนึ่ง แต่ความจริงแล้วน่าจะเกิดจากความหัวสูงของนางงามล่ำเตี้ยซะมากกว่า สุดท้ายก็เลยต้องหาหนทางอัปเกรดตัวเอง ด้วยการไปจับผู้ชายรวยๆ มาผสมพันธุ์ ขายตัวแลกเงินแบบนี้ นี่แหละมั้งที่เขาเรียกว่า “งามอย่างมีคุณค่า”

โดยเฉพาะเรื่องแย่งผัวชาวบ้านนี่ถนัดนัก ครั้งก่อนก็ไปฉกผัว “นางเอกผ้าพับไว้” ประจำวิกน้อยสี รักกับแฟนทหารอยู่ดีๆ เป็นสิบปี จู่ๆ นางงามล่ำเตี้ยก็ปรี่เข้าใส่ตอทหารซะงั้น ทำเอานางเอกผ้าพับไว้ถึงกับหัวเสีย นี่ถ้าของเขาไม่ดีจริงๆ ป่านนี้คงได้เสียม้าให้นางงามไปขี่เรียบร้อยโรงเรียนคันไปแล้ว ยะฮู้....

หน้าหงายจากรายแรก ใช่ว่านางงามล่ำเตี้ยจะหน้าบางลงซะเมื่อไหร่ เดินหน้าร่านต่อ จนไปสะดุดตอร์ปิโดผัวของ “นางเอกผลไม้” ที่เพิ่งย้ายรัง ชะอุ้ยย...ปิ๊งๆๆ เข้าอย่างจัง ทั้งเป้าตุง กระเป๋าหนัก หนังหน้าเหงียก มีเมียแล้ว ว้าวๆๆ โดน!!!

ว่าแล้วนางงามจอมฉกก็เลยงัดคาถาประจำตัวออกมาท่องงึมงำ “โอม..ความคันมาเยือน ต่อให้ต้องโดนตบด้วยเกือก ลูกก็ยอมๆ”

แต่ครั้งนี้สมหวังแฮะ!! พี่ปลวกตาตี่ หลงนางงามล่ำเตี้ยเข้าอย่างจัง จนยอมทิ้งนางเอกผลไม้ หุ่นน่าเจี๊ยะ เล่นเอานางงามสบายใจเฉิบ เพราะมีเอทีเอ็มให้กดอยู่หลายเดือน พอกดทีเงินก็ไหลน้ำก็ไหล ใครมันจะไม่แฮปปี้ว้า

แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ประเดี๋ยวประด๋าว น้ำยังไม่ทันจะเต็มโอ่ง ก็มีอันต้องหันหลังทางใครทางมัน โดยนางงามล่ำเตี้ยให้เหตุผลสวยหรูที่แสนจะยอดฮิตว่า “เข้ากันไม่ได้” ฟังแล้วก็ทุเรศ ไม่บอกว่า “แทงกันไม่เข้า” ไปเลยล่ะวะ

ก็เพราะว่าความคันมันอยู่ในสายเลือด อีหนูนางงามเชพตู้เย็นก็เลยต้องหาตอมาสนองความเสี้ยนของตัวเอง ล่าสุด ไปตกหลุมรัก “เสี่ยเต็นท์รถ” รายใหญ่คนหนึ่ง แถมเป็นเอามากถึงขนาดเทียวไล้เทียวขื่อ ตามตื๊อจนผู้ชายเขารำคาญ ทั้งเสนอหน้าชวนไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ ทอดสะพานสารพัด แต่ผู้ชายเขาก็ไม่สน เพราะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว งานนี้แทนที่จะได้ปรี้ก็เลยถูกยี้แทน กิ๊วๆๆ

แต่คุณเธอเป็นประเภทด้านได้อายอด ขนาดผู้ชายอุตส่าห์หนีไปเที่ยวพัทยา คุณหล่อนก็ยังมีหน้าตามไปจิก งัดสารพัดวิธีอ่อย ถึงกับลงทุนกรึ๊บเหล้าปลุกเร้าอารมณ์สุดฤทธิ์ ครั้นพอกรึ่มได้ที่ลีลาชะนีโหยก็วิ่งพล่าน ทั้งควักบุหรี่ออกมาพ่นควันปุ๋ยๆ ตามด้วยดิ้นยั่วสวาทอย่างเมามันส์ กะว่าวันนี้ได้ผัวชัวร์ป้าบ แต่จนแล้วจนรอดผู้ชายเขาก็ไม่ยอมเอา แทนที่จะได้แหกขา หน้าดั้นมาแหกแทนซะนี่

นอกจากผู้ชายจะไม่เอาแล้ว เค้ายังเอามาเมาท์สะนั่น งานนี้ก็เลยมีแต่เสียหมา แทนที่จะได้เสียตัวคับทั่น 555555

แรดเงียบอีกรายต้องยกให้ “นางเอกแอ๊บแบ๊ว” นี่ขนาดฉาบไว้แล้วนะเนี่ย ความคันมันยังแพลมออกมาประจานไม่เว้นแต่ละวัน ก่อนหน้านี้ ก็ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่เรื่องแย่งผัวคนอื่น จนคู่หมั้นเขาด่ากราดออกสื่อ เล่นเอาเจ้าหล่อนอับอายขายขี้หน้าไปหลายวัน

เรียกว่าถ้าจะให้เทียบเคียงความเน่าฟอนเฟะล่ะก็ พอฟัดพอเหวี่ยงกับแม่นางงามเลยเชียวแหละ แต่รายนี้กรรมไปตกที่ JIM ที่ต้องรับศึกหนัก เพราะเธอเล่นได้ทั้งของจริงของปลอม ถือคติเอาได้หมดบ่มีหยั่น ขอแค่มันซี้ดส์อ้า จะเป็นนิ้ว หรือ Kra-Door ก็ไม่เกี่ยง

เอ้...แบบนี้เค้าเรียก JIM เสรีอ่ะป่าวหว่า

อย่างว่าแหละ นิ้วมันจะมาสู้ของจริงได้ยังไง ว่าแล้วนางเอกแอ๊บแบ๊วก็เลยออกร่อนหาเหยื่อ ตกดึกก็ชวนชะนีก๊วนประจำไปดิ้นๆ แดนซ์ๆ ที่ผับแห่งหนึ่ง ช่วงกำลังโชว์สเตปอยู่นั้น เรดาร์สายตาก็ไปป๊ะหนุ่มหน้าคนหนึ่ง หลังจากเอกซเรย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อผ้าหน้าผมข้าวของเครื่องใช้แบรนด์เนมผ่าน คุณเธอก็จ๊องจ้องๆๆๆ จนไอ้หนุ่มหันมาสบตา เล่นเอานางเอกแอ๊บแบ๊วใจสั่น JIM ระทวย เจอเป้าหมายจั๋งๆ มีเหรอจะปล่อยให้รอด ว่าแล้วเธอเลยใช้ความแบ๊วที่มีเข้าไปสีๆ เสียดๆ ส่งซิกให้รู้ว่าอ่อยนะตัวเอง

ยิ่งพอรู้ว่าพ่อรูปหล่อมีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอก ฐานะก็ไม่ใช่กระจอก นางเอกแอ๊บแบ๊วก็ยิ่งเปิดทางให้สุดฤทธิ์ เสนอตัวให้เชือดขนาดนี้ ผู้ชายคงไม่โง่ปล่อยหลุดมือเหมือนกัน หลังขมิบรูคบหากันได้แค่ 3 วัน ก็ถึงวันดีเดย์ ตอนแรกสาวแบ๊วแอบนับนิ้วในใจว่าคงได้เบิ้ล แต่สุดท้ายก็เข้าอีหรอบน้ำแตกแล้วแยกทาง แถมนอกจากจะเสียตัวฟรีแล้ว ก็ยังเสียหมาอีกต่างหาก

เพราะหลังจากได้ฟันนางเอกหนุ่มนักเรียนก็เที่ยวเมาท์ไปทั่ว ประกาศไม่กลับไปซ้ำหลุมนางเอกอย่างแน่นอน คนอะไรหน้าตาก็สวยหุ่นก็ดี แต่ JIM แม่มเน่าชิบหาย นี่แหละน๊าที่เขาว่าสวยแต่รูป จูบแล้วเหม็นอ่ะ ก๊ากๆๆๆๆ

งานนี้ก็ไม่รู้ว่า เน่าเพราะนิ้ว หรือเพราะมั่วไม่เลือกเพศกันแน่

เคยได้ยินแต่ปลาหมอตายเพราะปาก เพิ่งเคยเห็นนางเอกตายเพราะ JIM ก็ตอนนี้แหละ...

พระเอกชาติชั่ว ลืมกำพืด เหยียบหัวกะเทย เข้าวงการ



คนดัง.....ลืมหลังควาย ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาเยือนอีกแล้ว ดูซิคนในวงการบันเทิงมันชอบทำเรื่องย่ำแย่ให้ เหม็นเน่า ไปกันทั้งวงการ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ อยากจะเอา ปี๊บคลุมหัว เดินแล้วนะเนี่ย พอมีคนถามว่า ทำงานอะไรไม่อยากจะบอกเลยว่า คลุกคลีตีโมง อยู่กับคนในวงการ แหม..จะไม่ให้ด่าได้ยังไงดาราแต่ละคนทำตัวได้ แสบสันสั่นผวา อย่าบอกใครเลยทีเดียว ไม่แปลกถ้า ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ จะมีเรื่อง ล้วงลึก ของคนดังมาให้ได้อัพเดทกันทุกสัปดาห์ อย่างว่าเรื่องเน่าๆ ใครเขาก็อยากรู้กันทั้งบาง เหมือนกับเรื่องของ พระเอกน้องใหม่ ที่เพิ่งก้าวเข้าวงการมาได้ไม่กี่ปี แต่ฮีทำวีรกรรมความชั่วใส่คนรอบข้างอย่างน่าสมเพช ไม่นึกเลยว่า พระเอกน้องใหม่ คนนี้จะมี พฤติกรรมต่ำช้า ได้เพียงนี้

พระเอกน้องใหม่ กระสันต์อยากเข้าวงการมาตั้งแต่ ขนอุย ยังไม่ขึ้น ตอนอยู่บ้านนอกฮีก็เปิดจอทีวีแล้วใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นพระเอกดังเหมือนดาราใน ทีวี ฮีเลยทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าวงการสมใจ แต่ด้วยความที่เป็น เด็กบ้านนอก โอกาสที่จะเป็นดารามันก็สุดแสนลำบากยากเข็ญเสียจริง พอเรียนจบ พระเอกน้องใหม่ เลยตัดสินใจ ทิ้งบ้านนอกคอกนา เอาเงินติดตัวมา ห้าร้อยกว่าบาท เพื่อหวังมาดังเอาดาบหน้า แล้วฮีก็เดินเข้าไปสมัครโมเดลลิ่งชื่อดัง แต่ด้วยความที่มี กลิ่นโคลนสาบควาย ใครบ้างเขาจะสนใจเด็กบ้านนอกอย่างมัน ไปสมัครเข้าโมเดลลิ่งที่ไหนก็แล้วแต่ เป็นอันต้องโดนตะเพิดระเบิดระเบ้อไปเลย

ชีวิตของ เด็กบ้านนอก สุดแสนชีช้ำ หลังจากที่สมัครโมเดลลิ่งที่ไหนก็ไม่รับ สภาวะเงินในกระเป๋าก็ร่อยหรอลงทุกที ฮีเลยตัดสินใจไปยืนสิงห์อยู่ใต้ต้นไม้ แถววังสราญรมย์ เพื่อหวังที่จะหาเงินมาประทังชีวิต แสงไฟสลัวเห็นหน้าตาไม่ชัด บวก อารมณ์เปลี่ยว ของพวกเกย์นักเที่ยว ทำให้หนุ่มคนนี้เป็นที่ฮอตฮิตของ เกย์ตัณหากลับ ทั่วไปทันที อนิจจา เส้นทางชีวิตของเด็กบ้านนอกคนนี้ ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดารา กลับเป็นได้แค่ เด็กขายน้ำ มันช่างน่าสงสารจริงๆ แต่ระหว่างที่ทำงานคั่นเวลาอยู่นั้น ก็เหมือนมีสวรรค์มาโปรด เหมือนโชคเข้าข้างได้เจอกับ กะเทยโมเดลลิ่ง คนหนึ่ง แล้วได้ชักชวนให้มาทำงานในวงการ ฮีก็ กระโดดตัวลอย ได้เข้าวงการสมใจแล้วทีนี้ คืนนั้นฮี ปรนเปรอความเสียว ให้กะเทยอย่างถึงใจ ถวายหัว เพื่อหวังเข้าวงการ พอมีช่องทางแสงสว่างในวงการแล้ว ฮีเลยถือโอกาสล้างมือในอ่างทองคำ ทิ้งอาชีพอัน โส-มม ไว้แค่นี้ แล้วหันมาเอาดีกับเป้าหมายใหม่ แถมบอกกับกะเทยว่า “ขอแค่ให้ผมได้เป็นพระเอกจะให้ทำอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น”

กะเทยโมเดิลลิ่ง เลยยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินให้เดินเข้าไป ศัลยกรรมทำหน้าหล่อ ทันที จากเด็กบ้านนอกพอโดนหมอ จิ้มซิลิโคน เข้าไป ทำให้หน้าตาดูดีประหนึ่งพระเอกละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ พอมีหน้าหล่อเหลาก็ส่งให้ไปถ่ายแฟชั่นตามนิตยสารต่างๆ เริ่มที่ หนังสือแนวเรตเอ็กซ์ ปลุกใจพวก เกย์กระหายน้ำกาม ทุกครั้งที่ถ่ายแฟชั่นฮีต้อง สังเวยความเสียว ให้กับทีมงานเกือบทุกครั้ง พอเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น หนุ่มคนนี้ก็ปรับลุคส์เปลี่ยนพฤติกรรมให้ตัวเองดูดีขึ้นมาทันที ไม่ไป เกลือกกลั้ว กับเรื่องต่ำๆ เหมือนแต่ก่อนอีกเลย

ในที่สุด กะเทยโมเดลลิ่ง ก็พาเข้าไปเสนอให้เป็นนักแสดงใน สังกัดละครยักษ์ใหญ่ ถ้าพูดไปใครๆ จะต้องร้องอ๋อ แล้วผู้ใหญ่ก็วางตัวให้เล่นเป็น พระรอง ของละครย้อนยุค ชื่อเกี่ยวกับอวัยวะที่สำคัญสุดในร่างกาย จนดังเปรี้ยงปร้าง เหมือนโชคเข้าข้างอีกรอบ ทางสถานียักษ์ใหญ่ออเดอร์ขอให้หนุ่มคนนี้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวซะเลย ประกับกับ นางเอกชื่อดังของช่อง เล่นละครมาแล้วก็หลายเรื่องชื่อเสียงเลย โด่งดัง ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

แต่ใครจะรู้ว่า พระเอกน้องใหม่ คนนี้มันจะมีประวัติที่ โส-มม ได้ขนาดนี้ แล้วใครจะรู้อีกว่าที่มายืนบนเส้นทางนี้ เป็นเพราะกะเทยหนุนอยู่เบื้องหลัง แทนที่จะสำนึกบุญคุณคน แต่ พระเอกน้องใหม่ กลับไม่แยแสเขาอีกเลย กะเทยโทรหาก็ไม่รับสายแถม ด่าตะเพิดเปิดเปิง อย่างกับหมูกับหมา คนนะ ไม่ใช่ปลาย่าง ที่จะมายอมกันได้ง่ายๆ หลังจากที่โดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ความอนทนของ กะเทย ก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน กะเทยเลยขอเอาประวัติเรื่องราวอันชั่วช้าของ พระเอกน้องใหม่ มาแฉแบบหมดเปลือก ชนิดที่เรียกว่า ขุดโครตเง่า เรื่องเก่าๆ ตั้งแต่ยังไม่เข้าวงการมา เปิดโปง ให้คนทั้งประเทศรู้ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ ว่า สมควรอย่างยิ่งคนที่ลืมบุญคุณคนอื่นมันต้อง โดนด่า อย่างนี้ซักทีจะได้สำนึกบ้าง

ด่าไปใช่ว่าจะสำนึก พระเอกน้องใหม่ กลับไม่สนใจ แถมตอกกลับผ่านสื่อบอกว่า เป็นแค่การเข้าใจผิดกันเท่านั้นไม่ได้มีพฤติกรรมแย่ๆ เยี่ยงนี้เลยซักนิด ออกมาตอบโต้อย่างนี้หารู้ไม่ว่า อนาคตของฮีกำลังจะดับวูบในพริบตา เพราะกะเทยคนนี้ กุมความลับ และหลักฐานไว้จนหมดสิ้น ในที่สุดเรื่องก็ถึงผู้ใหญ่ทางต้นสังกัดของฮีทันที แล้วก็เรียกเข้าไปเจรจาตกลงยอมความกันอย่างลับๆ แล้ว พระเอกน้องใหม่ ก็โดนสั่งทำทัณฑ์บนไม่ให้ออกงานที่ไหนเลย เพราะกลัวนักข่าวจะ สาวไส้ และกลัวว่าจะทำเรื่องแย่ๆ ไปมากกว่านี้ ให้รอจนกว่าจะเห็นว่าทำตัวดีขึ้นแล้วค่อยออกงานโชว์ตัว เรื่องนี้มันยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะกะเทยก็ไม่ยอมความง่ายๆ แล้วอีกอย่าง พระเอกน้องใหม่ มันก็ไม่ยอมควักเงินของตัวเองจ่ายเหมือนกัน ทำให้เรื่องต่ำๆ โดนขุดคุ้ย ออกมาแฉอย่างที่ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ เล่าให้ฟังนี่แหละ ละครเรื่องนี้คงจบยากแน่ๆ บอกแล้วว่า อย่าให้กะเทยโกรธ ไม่งั้นจะโดนแฉเยี่ยงนี้

ขอบคุณข้อมูล :

มาแต่ตัว ‘มั่ว’ ยกแก๊ง สวิงกิ้งกัน สนั่นคอนโด

ความเสี้ยนไม่เป็นต่อ รูปหล่อไม่เป็นรองใคร โปรเจ็คบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ มีมาล่อให้ชาวบ้านอย่างเราๆ ส่งชิงโชคเยอะแยะมากมาย ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ ก็ส่งไปเล่นชิงโชคหลายรางวัล หวังจะได้บินไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนากับเขาบ้าง แต่ไม่รู้จะโชคดี หรือว่า ดวงกุด ได้บินไปเที่ยวบ้างหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ขอภาวนาให้ดวงดีได้ไปทัวร์ยกแก๊งค์กับชาวบ้านเขาบ้าง

ถึงจะไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ ก็ได้สืบเรื่องลับเฉพาะที่ไม่เหมือนใครมาตีแผ่ให้ฟังอีกตามเคย คราวนี้เป็นเรื่องราวตื่นเต้น น่าสนุก มันส์หยดติ๋ง ของเหล่าดาราวิกไม่กี่สี ที่ นังชะนีหน้าดำ ขออาสาไปบุกเกาะติดสถานการณ์แบบอินไซด์สุดๆ จนไม่มีใครสงสัยเลยว่า นังคนนี้เป็น หนอนบ่อนไส้ คาบข่าวเรื่องคาวๆ มา เปิดโปง ให้ชาวโลกได้ล่วงรู้ วันหนึ่ง นังชะนีหน้าดำ ขอแฝงแปลงร่างเป็น หนอน ไปซ่อนตัวอยู่ใน ก้อนขี้ ของกองถ่ายละครเรื่องหนึ่ง ของวิกไม่กี่สีนี่แหละ และละครเรื่องนี้เป็นการรวมตัวของดาราหน้าเก่า-หน้าใหม่ไว้มากมาย การถ่ายทำละครก็ดำเนินการไปได้อย่างดีไม่มีผิดเพี้ยน

แล้ว นังชะนีหน้าดำ ก็หลงเสน่ห์ พระเอกตี๋หน้าขาว ชื่ออยู่แถบชานเมือง ความหล่อของพ่อตี๋คนนี้ไม่ต้องบรรยาย เห็นแล้ว ชะนีคัน อยากจะละลาย เอา หอยถวายใส่ปาก อยากให้เลียเสียจริงๆ เพราะหน้าตาหล่ออินเทรนด์เกาหลีสุดๆ โดยเฉพาะ เรื่องความหงี่ ที่ไม่เป็นสองรองใคร คงต้องยกให้ วีรกาม ของฮี ที่ชอบ ขยี้พรหมจรรย์ บรรดาสาวใจแตกในวงการทั่วไป ให้ชีได้ลิ้ม รสดุ้นรุ่นเล็กสั้นขยันซอย ของ พระเอกหน้าตี๋ คนนี้นั่นเอง เล่นละครเรื่องไหน เรื่องนั้นฮีจะต้อง ฟาดชะนี ในกองไม่ซ้ำหน้ากันเลย โดยเฉพาะละครเรื่องล่าสุดที่ฮีได้ประกบกับ นางเอกพลาสติก หน้าฝรั่งชื่อเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ทั้งคู่เล่นละครด้วยกันกับบทพ่อแง่แม่งอน แต่งอนกันไปมา ดัน ขึ้นขี่กัน ซะงั้น เล่นเอาคนทั้งกองถ่ายงงงวยไปเลย เพราะ นางเอกพลาสติก ก็เพิ่ง ตัดสายสะดือ เข้าวงการมาได้ไม่นาน ก็ขึ้นเขียงให้พระเอกบี้มาแล้วหลายต่อหลายคน วันหนึ่งทั้งคู่โดดกองละครไปซ้อมเล่น บทอีโรติก ในคอนโดโนคอนด้อมอย่างสนุกสนาน ทีมงานนั่งรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นพระ-นางของเรื่องมาถ่ายละครเสียที อย่างนี้มันต้อง ตบสั่งสอน ซะหน่อย แล้วความรักของ พระเอกตี๋หน้าขาว กับ นางเอกพลาสติก ก็แอบสานสัมพันธ์กันมาอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครรู้เท่าไหร่นัก

ฟากเพื่อนซี้ของทั้งคู่ ที่โคจรมาเจอกันในละครเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ก็กิ๊กเข้าอย่างจังบ้าง ต้องยกให้ นางเอกหน้าแก่ ที่ชื่อคล้ายภาชนะพลาสติกทรงกลม สาวสวยไม่เป็นสองรองใคร แล้วชีก็ดังไปปิ๊งกับ พระเอกขี้โกง ถึงขั้นหลบกองถ่ายไป ป้าบๆ กันอย่าง มันส์หยด จนคนในกองเม้าท์กันกระจาย แต่คู่นี้ก็ทำเนียนพอเข้ากองถ่ายมาปุ๊บก็ทำเป็นไม่รู้จักมักจี่กันเลย แล้วยังทำตัวเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน หน้าตามันยังไม่อยากที่จะแลกันเลยก็ว่าได้ แต่พออยู่ใน ห้องเริงสวาท กันสองต่อสองเท่านั้นแหละ นางเอกหน้าแก่ ก็ปรนนิบัติพัดวีฝ่ายชายโดยไม่สนว่า ใครจะด่า แล้ว พระเอกขี้โกง ก็ยื่นความเสียวให้กับนางเอกคนนี้ จนติดใจในรส กระดู๋ ของผู้ชายแมนเกินร้อยของฮีนั่นเอง เริงรัก กันอยู่พักใหญ่ สงสัยจะเริ่มเบื่อใน รสชาติความเสียว เลยเริ่ม ส่ายเป้า ไปหาเหยื่อกันใหม่

ช่างเป็นความเหมือนที่แตกต่างของทั้งสองคู่จริงๆ ระหว่าง พระเอกตี๋หน้าขาว กับ พระเอกขี้โกง ทั้งสองคนคือเพื่อนซี้กัน เพราะอยู่ภายใต้หลังหลังคาบริษัทเดียวกัน ความมันส์ ก็เริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง ด้วยการที่พระเอกทั้งสองคนคุยกันว่า จะลอง สลับคู่ชู้ชื่น ดูบ้างว่า จะมันส์ถึงใจหรือเปล่า แล้วทั้งสองคนก็ตกลง สลับขั้ว เปลี่ยนชะนีกันใช้ แล้ว พระเอกตี๋หน้าขาว ก็เริ่มเดินเครื่องจีบ นางเอกหน้าแก่ อย่างไม่คิดชีวิต แล้วก็เป็นผล พอมีผู้ชายหน้าเกาหลีเข้ามาจีบหน่อย ชีก็เปิด ปฎิบัติการอ่อย เต็มที่ ฝ่ายชายก็ไล่บี้ชะนีไม่ยั้ง เห็นมั้ยล่ะ แค่ยังไม่ทันไร มันก็ลากกันขึ้น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสียแล้ว

ส่วนทางด้าน พระเอกขี้โกง ก็สลับขั้วไป ลิ้มรสหอยเชลล์หน้าฝรั่ง บ้าง แหม...มันช่างสลับคู่ สลับขั้วกันเมามันส์จริงๆ วันดีคืนดี หงี่จัด มันก็จัดสวิงกิ้ง 4 คน 2 คู่กันอย่างมันส์พะยะค่ะ นังชะนีหน้าดำ ซ่อนตัวอยู่ในกองละครเรื่องนั้นก็ยังได้รับ กลิ่นไอความมันส์ กับเขาด้วย แถมพวกนี้มันยังชอบโพทะนา แอบไปคั่วกันที่ไหนมาบ้าง เด็กในกองรู้หมด โอ๊ย...เด็กสมัยนี้มันช่างใจกล้า หน้าด้าน ดีเหลือเกิน มีเซ็กส์กันเพลินๆ แล้วยังเพิ่มดีกรี ความตื่นเต้น ด้วยการ สลับคู่ชู้ชื่น อย่าง เมามันส์ เรียกว่า เป็นพฤติกรรมที่กำลังฮอตฮิตในหมู่มวลวัยรุ่น ที่พิศมัยการมี เซ็กส์พิศดาร

สงสารก็แต่แฟนละครที่หลงใหลชื่นชมบรรดานักแสดงพวกนี้ ที่เป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน แต่ดันมา ทำตัวย่ำแย่ เสียเอง ถ้าเด็กๆ รู้ว่าพระเอก-นางเอกแถวหน้าของเมืองไทย มี ความชั่วติดรากฝังลึก ได้เพียงนี้ จะรู้สึกยังไง ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ ก็คงวอนได้แต่ผู้จัดละครค่ายยักษ์ คงต้องช่วยสอดส่องเหตุการณ์ในกองถ่ายบ้างว่า มันเกิดอะไรขึ้น พระเอก-นางเอกคนไหน มันเสี้ยนจัด ก็ไล่ออกไปให้พ้นจากกองถ่ายเลยดีกว่า ไม่งั้นอาจทำให้ละครเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ถ้าจะสวิงกิ้งครั้งใด ก็ขอให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้ง ระวังเอดส์จะถามหา

ขอบคุณข้อมูล :

ล็อกแล้วจ้า!!

ช่วงนี้ซ้อค่อนข้างจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ...อ้า... ไม่ใช่เพราะใกล้จะหมดเมนส์ เพราะ แหม......หื่นระดับนี้แล้วพร้อมเจริญพันธุ์มันทู๊กวันแหละ เพียงแต่ไอ้ ผัวฝรั่งที่เคยอยู่ในโอวาทยังกะทาสในเรือนเบี้ยก็หันมาขึ้นเสียงแว๊ด ๆ ฟุตฟิตฟอไฟประมาณว่า “พวกยูขี้โกง” หลังเห็นนางเหยินแก่ตัวดีประเดิมความสำเร็จบนเส้นทางตะกายดาว ชนิดที่ไอ้ปากหมาๆอย่างเราเองฟังแล้วต้องเงียบกริบ

แต่ก็อีกแหล่ะว่า แต่คิดไปคิดมามันก็ถูกอย่างที่คุณผัวสปีกนี่หว่า อาการตะคริวแดกปากก็เลยเกิดขึ้นมาซะงั้น

แหม ขนาดชุดที่ว่านี้...ตัวนางเน่าเองยังไม่อยากใส่เลยนี่หว่า

แฮะๆๆๆ ที่มันส์กว่านั้นอีกก็เพราะว่า พอรู้ว่าจะต้องใส่ชุดนี่ขึ้นมา นางเน่าของเราถึงกับให้เจ้าคุณแม่ตัวแสบไปวีนทางทีมงานให้ยกเลิกชุดที่ว่า นี้ เพียงแต่ ‘จรกาหน้าดำ’ตัวดี และ ‘สาวใหญ่นมย้วยตระกูลคนรวย’คน ใหญ่ในนั้นการันตีให้เสร็จว่า ชุดนี้รับรองว่าใส่แล้วไม่มีเน่า ไม่ใช่เพราะ ชุบฟอร์มาลีนอาบศพมาแล้วอย่างชุ่มโชก แต่เป็นเพราะมีกำลังภายในระดับที่ทำให้ ความเน่ากลายเป็นความเฟรชขึ้นมา

ปัด โถ่...อีเรื่องสินบนข้ามชาติยากกว่านี้ยังทำมาแล้ว เรื่องแค่ชุดทำไมจะทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นยัยนมใหญ่จึงกลายร่างเป็นเสี่ยสั่งลุยทุบเอาถ้วยแรกมาประดับให้ มันรู้กันไปว่า...ไผเป็นไผ

ได้ผลซีจ๊ะ เพราะ ฝรั่งร้อง Shit กันเป็นแถว ว่ามันจะโกงอะไรขนาดนั้น คนไทยนั้นร้องยี้พร้อมเอามืออุดจมูก ขณะที่หน้าม้านางเน่าเริ่มปฏิบัติการเชียร์กันชนิดลมจะใส่...

ที่มันส์กว่านั้น ชนิดไม่เล่าไม่ได้ เพราะ พอได้ถ้วยแรกปุ๊บ...คุณแม่เน่าก็ไปวีนอีกรอบ โวยวายหาว่า แฮ็ปถ้วยเล็ก ๆ มาให้แล้ว ไอ้รางวัลใหญ่ๆที่จะสร้างชื่อระดับโลกยิ่งกว่านี้จะไม่โดน ทั้งฝรั่ง ไทย จีน แอฟริกัน และแขก รุมประนามกันมากกว่านี้เหรอไง...พูดง่ายๆ จู่ๆหน้าคุณแม่ก็เริ่มจะบางขึ้นมาซะงั้น?

เล่นเอาจรกาหน้าดำกะสาวใหญ่นมย้วย ยันป้าหน้าม้า งงเป็นไก่ตาแตกว่าจะเอาใจมันยังไงดีละวุ้ย

เลือกศพมาลงสนามมันก็เงี้ยแหล่ะเพ่....อิอิอิ

***********************************

บอกแล้วว่ายายคนนี้ไม่ธรรมดา ดีกรีความอุบาทว์ทะลักจุดแตกเหม็นโฉ่มาตั้งแต่ตอนเป็นนางเน่าแล้ว พอก้าวขาเข้างานอินเตอร์ก็นึกว่าน้องเหยินจะปรับปรุงตัว ที่ไหนได้อนุรักษ์ขี้ไว้เพียบ

ที่สำคัญรอบข้างของหล่อน นอกจากที่เคยอยู่เบื้องหลังของการส่งลงสนามและล็อกตำแหน่งเอาไว้แล้ว หล่อนก็ไม่ได้มีใครคนไหนจะมาให้กำลังใจกันเลย จนคนสงสัยว่ามีใครสร้างกระแสเกลียดชังหรือเปล่าจ๊ะ

ปัดโถ่...ก็สันดานแบบนี้มันน่าคบนักนี่หว่า

ขนาดเมททำความสะอาดหล่อนก็ยังไม่มีน้ำจิตน้ำใจให้ เหตุเกิดที่ห้องพักระหว่างที่น้องเหยินกำลังนั่งแชตระริกระรี้อยู่กับผู้ชาย เมทดวงซวยบังเอิญมาจ๊ะเข้าเห็นว่าเป็นนางเน่าท่าจะใจดี ก็เลยขอร้องให้ช่วยแปลคำพูดแขกฝรั่งคนหนึ่งให้หน่อยว่า เค้าพูดอะไร

เท่า นั้นแหละหล่อนก็หันหน้าแก่ ๆ กับหัวเถิก ๆ มองมาที่เมท พร้อมกับทำจมูกบาน ๆ ประมาณว่าหงุดหงิดสุดฤทธิ์ จากนั้นก็ทำเฉยเป็นลิงหัวเถิกไม่ได้กินกล้วยปักกิ่ง เล่นเอาเมทใบ้แดกไปหลายวัน

วีรกรรมยโสครั้งนั้นทำเอาชื่อเสียงของน้องเหยินกระจอนกระจายไปทั่ว แก๊งเมท ใครไปเจอยายนี่ทำฤทธิ์อะไรมาก็สุมหัวเล่าสู่กันฟัง ล่าสุดก็เห็นเมาท์กันแตกว่า แม่นี่เอากางเกงในเปื้อนเมนส์มาให้ซัก เล่นเอาพวกพ้อง ชาวเมทต่างแหวะกันถ้วนหน้า แต่แล้วก็ต้องขำกันขี้แตกขี้แตนเมื่อมีคนหนึ่งตั้งคำถามชวนสงสัยว่า หน้าแก่ขนาดนี้ยังไม่หมดเมนส์อีกเหรอวะ !

แต่สงสัยว่าพวกเมทจะเข้าใจผิดจ้า เพราะ ศพมันไม่มีเมนส์หรอก มีแต่น้ำเหลือง...เข้าใจ๋ !!5555555555

นอกจากจะเป็นที่หมายหัวของชาวเมทจนเกือบจะโดนไม้ม็อบตีกะบาลแล้ว น้องเหยินตัวแสบก็ยังเป็นที่เกลียดชังในหมู่เพื่อนฝูงสุด ๆ ขนาด “เพื่อนรักอภิมหาอำนาจ” ที่หล่อนทำท่าร๊ากๆๆๆ นอนอยู่ในห้องเดียวกันแท้ ๆ ยังเหม็นขี้หน้าหวิดจะมีเรื่องตบกันหลายรอบแล้ว

เหตุเกิดเพราะความสาระแนของน้องเหยินเองนั่นแหละที่เที่ยวปากยาวไป โพนทะนาว่า เพื่อนร่วมห้องแต่งตัวห่วยแตกโลว์คลาสสิ้นดี หุ่นอ้วนเผละเป็นรถถังหุ้มเกราะยังกับจะไปบุกอิรัก ขนาดนี้แล้วยังแต่งตัวเปิดหน้าเปิดหลังอยู่ได้ เจอเข้าแบบนี้มีหรือเพื่อนรักอภิมหาอำนาจจะยอมได้ งานนี้ก็เลยเปิดศึกฉะกันแหลก จะว่าไปแล้วก็น่านับถือในความใจถึงของเหยินซะจริง ๆ ที่กล้าต่อกรกับอภิมหาอำนาจ ระวังให้ดีเหอะประเดี๋ยวเค้าส่งจรวดมิสไซล์มาถล่มทั้งประตูหน้าบ้านกัหลัง บ้านล่ะแย่เลย

แต่ถ้าวิ่งมาถล่มประตูล่าง...ศพเหยินยินดีอ้าขาให้ถล่มนะจ๊ะ คิกๆๆๆๆๆ

ผลของการเปิดศึกของสองสาวทำให้เพื่อนฝูงแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายอภิมหาอำนาจประกอบไปด้วยเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา เพราะดีกรีความหมั่นไส้ถึงจุดแล้ว ส่วนฝ่ายน้องเหยินนั้นมีแต่หอยกับรอยตีนกา (และอาจจะเพิ่มตีนอย่างอื่นอีกเร็ว ๆ นี้) 55555555555555
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะเห็นน้องเหยินเดินฉายเดี่ยว มองเผิน ๆ เหมือนมั่นใจ ที่ไหนได้อุบาทว์จนไม่มีใครคบ!!

ความหวังคว้าถ้วยแห่งเพื่อนรักที่ใครๆก็กะซิวมาเพื่อเป็นเกียรติก็เลยท่าจะริบหรี่

เป็น ที่รังเกียจทั้งแม่บ้านและเพื่อนฝูงคงยังไม่หนำใจ ล่าสุดก็เห็นว่าไปทำซ่าวีนแตกใส่ทีมงาน เค้าสั่งให้ทำโน่นทำนี่ก็ทำหน้าเบ้ใส่เค้า จะกินจะนอนจะขี้จะเยี่ยวก็เรื่องมาก ดีหน่อยแต่ตอนหลับไม่ละเมอเอาขี้เปียกมาไล่ป้ายปากใคร

เล่นฟาดหัวฟาดหางไปทั่วสารทิศชนิดไม่กลัวใครแบบนี้ ถ้วยเพื่อนรักที่หนแรกกะซิวอีกดอกหนึ่งมาสร้างภาพให้ต้นสังกัดก็เลยต้องหลุด ไปโดยปริยาย

แต่ถ้วยเล็กๆทีว่านี้ว่าไปแล้วมันก็ไม่สำคัญอะไรนัก เพราะความจริงแล้วที่เขาล็อกๆกันไว้ และจ่ายใต้โต๊ะกันไปบานมันต้องเบ้งกว่านี้

ใบสั่งจากใครบางคน ทุบโต๊ะบอกว่า นางเน่าจะต้องเข้ารอบลึกเกิดขึ้นมาแล้วจ้าท่านผู้ชม เพราะมันช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ให้เราได้

ตำแหน่งชนะเลิศอาจจะไม่ได้ แต่รองอันดับหนึ่ง...อยู่ในกระเป๋าอุ่นๆ!!
งานนี้บอกได้คำเดียวว่าเศร้า เพราะยังมีคนจำนวนมากที่เขามองเห็นความจริงว่า เราเป็นได้แค่ไหน และคุณภาพที่มีอยู่สมควรจะรับมันแค่ไหน (เพราะความจริง ที่ได้มานั่งนิ่งแคะหอยอยู่ริมสนามก็บุญโขแล้วนา)

อย่ามาใช้คำว่าทำเพื่อทำส่วนรวมเพื่อบ้านเมือง มันยังมีอีกร้อยแปดวิธีที่จะทำให้บ้านเมืองเราเจริญและเป็นที่รู้จัก ไม่ใช่ใช้แผนสกปรกให้คนอื่นเค้าเกลียดไปทั่วแบบนี้

แต่ ที่รับไม่ได้ก็เพราะ ไอ้เงินที่ใช้ยัดโต๊ะกรรมการครั้งนี้เป็นเงินกองกลางที่เจ้าจรกาหน้าดำรับ ว่าจะยักงบที่ถืออยู่มาให้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ตูมีส่วนช่วยนังเหยินศพอีกคนด้วยนี่หว่า แหม่....คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนักเชียว คนจนนอนถนนบ้านไม่มีจะอยู่ออกจะเต็มบ้านเต็มเมือง กลับเอาเงินไปถมกับไอ้เรื่องไร้สาระแบบนี้นี่นะ

โอ้พระเจ้า...โปรดเมตตาประทานสติปัญญาให้ไอ้พวกบ้องตื้นนี่ด้วยเถอะ

ยกเว้นเสียแต่ว่า “จิตสำนึกจะบังเกิด” แต่ถ้ายังหน้าหนาไม่มียางอายอยู่แบบนี้ เตรียมปี๊บไว้คลุมหัวได้เลย
ส่วนน้องเหยินหัวเถิกแอนด์ฟันยื่น ไม่ต้องลำบากเตรียมปี๊บ เพราะผ่านมาหลายเรื่องแล้วคงเอายางอายใส่ตู้นิรภัยไว้อยางดีแล้ว จึงไม่มีหลุดอะไรให้เห็น ยังคงแป้นแล้นเดินส่ายกระดุ๊กกระดิ๊กขึ้นสนามยังกะหนูน้อยอาราเร่ได้อย่าง เสมอต้นเสมอปลาย

เฮ้อ.....โกงมันได้ทุกเรื่องแบบนี้ นี่แหละ ‘อันซีน’ ของแท้....

credit
ซ้อเจ็ด

ละคร “เมียหลวง ภาคพิสดาร”

“ไม้ล้มอย่าข้าม” เป็นคำอ้อนวอนของกลุ่มแฟนคลับ “คนรักการ์ตูน” (ที่ดูเหมือนจะมีเหลืออยู่น้อยเต็มที) แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องของ “น้องการ์ตูน” อินทิรา เกตุวรสุนทร กลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ที่สร้างสีสีนฮือฮาอยู่เวลานี้ เรียกว่าดังจนกลบข่าว “เสื้อเหลือง เสื้อแดง” ซะด้วยซ้ำไป! เดี๋ยวนี้สิไหนจะก่อม็อบ พรรคไหนจะพัดกับพรรคไหน ไม่มีใครสนตุ้ยแล้วค่ะ...โคตรเบื่อ! แม่มกัดกันไม่เลิกซักที!

สู้มาลุ้นข่าวของ น้องการ์ตูนไม่ได้ค่ะ...มันส์กว่าเยอะ เพราะเรื่องราวของ น้องการ์ตูน เหมือนนิยายน้ำเน่า ที่เราอ่านไม่รู้เบื่อ! เนื่องจากทั้งซับซ้อนซ่อนเงื่อน เต็มไปด้วยปมปรินาให้ค้นหา ขณะที่ก็มีอารมณ์ครบเครื่อง ทั้งดราม่าน้ำตาคลอ หัวร่อน้ำตาเล็ด แถมยังมีตัวละครหลากหลาย ทั้งพระเอก ผู้ร้าย นางเอก นางร้าย นางอิจฉา เอาล่ะก่อนที่จะถึงฉากอวสานที่ไม่รู้ว่าพระเอก-นางเอกจะแฮปปี้เอนดิ้งโจ๊ะ ทิงทิงกันหรือไม่ อย่างไร ในวันนี้ “เจ๊เขียว” ขอเลี้ยวกลับไปลำดับเหตุการณ์มาให้ทุกคนได้เห็นเป็นฉากๆอีกซักครั้ง

มันเริ่มมาจากข่าวที่น่ายินดีของ น้องการ์ตูน แต่เป็นข่าวที่ช็อกสาวๆ เมื่อจู่ๆก็มีข่าวว่า สาวคนใหม่ของนักร้องสุดหล่อเป้าตุง “โดม” ปกรณ์ ลัม คือ การ์ตูน อินทิรา อดีตสาวเวทีมิสทีนฯ ดาราสาวจากละครเรื่อง “เมียหลวง”

ท่ามกลางความกังขาไม่น่าเชื่อ นักข่าวบันเทิงก็ช่วยคลายปริศนาให้เมื่อ โดม ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า “ดูๆอยู่กับ น้องการ์ตูน จริง” เล่นเอาสาวๆ พากันอึ้ง หยิกทึ้งตัวเอง ประชดประชันราวกับคนบ้าก็ไม่ปาน! แต่ก็มีเหล่าแฟนคลับของ น้องการ์ตูน ที่ออกมาปกป้องโดยย้อนถามว่า “การ์ตูนไม่เหมาะสมกับโดมตรงไหน ก็ในเมื่อสาวกว่า สดกว่า แฟนเก่า โดมซะด้วยซ้ำไป”

อืม ก็จริงของพวกเธอเนอะ แต่แหม ปล่อยให้แฮปปี้กับข่าวดีไม่กี่วันเอง สถานการณ์เกิดพลิกผันชั่วข้ามวันทันที เมื่อจู่ๆก็มีภาพ “เวดดิ้ง” หลุดออกมา ซึ่งตามข่าวระบุว่า เจ้าสาวหน้าเหมือนการ์ตูน

ศึ่กภาพเวดดิ้งชุดนี้นี่แหละที่ฉุดให้ การ์ตูน เหมือน “ตกนรกทั้งเป็น” ในเวลาต่อมา จากนั้นก็มีการขุดคุ้ย “อดีต” อย่างมโหฬาร จนได้ความืบหน้าว่า ภาพเวดดิ้งดังกล่าวไม่ใช่เป็นการตัดต่อ แต่เป็นภาพจริงแท้อน่นอนร้อยเปอร์เซนต์

นอกจากนี้ยังสืบรู้อีกว่า “เจ้าบ่าวหน้าผากกว้าง” ในรูปเวดดิ้งฉาวดังกล่าวนั้นชื่อว่า “หนึ่ง” วีรภัทร ทองเชื้อ ท่ามกลางแรงกดดันของสื่อ ในที่สุดการ์ตูน ก็เลือกเทษกาลสงกรานต์ บวกเทศกาลปราบม็อบ เป็นวันดีเดย์ จัดแถลงข่าวกับสื่อ 4-5 ฉบับแบบเงียบๆ ก็อาศัยกระแสม็อบกลบข่าวฉาวไปซะซึ่งได้ผล

ในถ้อยแถลงของ น้องการ์ตูน นั้น กล่าวยอมรับว่า มีการแต่งงานเกิดขึ้นกับผู้ชายหน้าผากเถิกในรูปนั้นจริง โดยเรื่องราวเกิดตั้งแต่ปี46 ซึ่งตอนนั้นการ์ตูนอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น! !

การ์ตูนบอกว่า “คือตอนนั้นตูนยังวุฒิภาวะน้อย ยังอ่อนต่อโลก” อีกเหตุผลคือ “งานวิวห์ดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ใหญ่จัดให้ ไม่ได้เป็นความต้องการของตูน” “แล้วการแต่งงานก็เป็นแค่ระยะสั้นๆ ตูนก็กลับไปอยู่บ้านของตูน”

อืม ได้ฟังเหตุผลของน้องการ์ตูนแล้วก็แสนจะเห็นใจในโชคชะตา ไฉนฟ้าไม่มีตา กลั่นแกล้งแม้แต่เด็กสาวไร้เดียงสา ยิ่งพี่โดมเนี่ย พอฟังแล้วสงสารน้ำตาเล็ด รีบออกมาประกาศเจตนารมณ์จะยืนอยู่เคียงข้างน้องการ์ตูนเสมอ ถึงแม้ว่าน้องจะมีปั๋วมาแล้วก็ตาม “ไอ ด้อนท์ แคร์”

ก็ดูเหมือนคำประกาศแบบ “โคตรแมน” ของพี่โดม น่าจะปิดปากขาเม้าส์ทั้งหลายให้จบข่าวซักที แต่มันก็ยักกะเป็นไปตามที่ใจปรารถนา แต่ว่าในทางกลับกัน กลับยิ่งเหมือนโยนเชื้อเพลิงเข้าไปให้ลุกโหมแรงยิ่งขึ้น เพราะปรากฎว่าแค่วันถัดมา หญิงสาวที่ชื่อ “พิม” พิมพาภรณ์ ที่อ้างว่าเป็นภรรยาของพี่หนึ่ง เจ้าบ่าวหน้าฝากกว้างในรูปแหล่ะค่ะ เมื่อได้อ่านข่าวที่การ์ตูน ออกมาแถลงทั้งหมดสิ้นแล้ว...ทนบ่ได้!!

เลยออกมาแฉลากไส้กลับซะน้องการ์ตูนเสียผู้เสียคน...ถ้าคำพูดทั้งหมดนั้นเป็น ความจริง โดยฝ่ายหญิงที่ชื่อ “พิม” แฉว่า ตนเองเคยเป็นเมียของหนึ่งมาก่อน จนมีลูกเต้าด้วยกันแล้ว แต่ต่อมาก็ถูกการ์ตูน “แย่งผัวไปหม้อ พรากพ่อไปจากลูก” สิ่งที่เธอเล่าจากปากไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

ผู้หญิงหนึ่งจะร้ายได้ขนาดนี้จริงๆหรือ? เพราะมันเหมือนละครน้ำเน่าช่อง 7 มากกว่า อยากได้ผัวคนอื่นเค้ามาก ขนาดหอบเสื้อผ้าเข้าไปอยู่บ้านเค้าแบบดื้อๆ ทั้งที่เมียและลูกเค้ายังอยู่หัวโด่ สุดท้ายฝ่ายอีเมียเอก ก็หนาสู้ไม่ได้ จึงหอบเสื้อผ้าออกมาซะเอง ก่อนจะขอหย่าเปิดทางให้ผัวกับเมียใหม่เสพสุขกันตามสบาย เจ๊ไม่อยากเชื่อว่าสาวสวยหน้าซื่อๆอย่างการ์ตูน จะทำอย่างนั้นจริงๆ!

แต่ฝ่าย “พิม” กลับย้อนว่า ถ้าถามถึงความสัมพันธ์ของการ์ตูน กับสามีตนจะให้เรียกว่าอะไร? ก็ในเมื่อเค้าเข้ามาอยู่ในบ้าน ในขณะที่เมียกับลูกก็ยังอยู่เต็มบ้าน จะให้เรียกว่าอย่างไร? ก็คงเรียกว่า “เมียน้อย” ล่ะมั้ง ถ้าเราเลิกไปก่อนแล้วสิ ถึงไม่เรียกว่าเมียน้อย!

อย่างไรก็ตาม “พิม” ก็ยังอวยพรส่งท้ายขอให้น้องการ์ตูน ไปได้ดีในหน้าที่การงาน ร่ำรวยเงินทอง เพราะจะได้ไม่ต้องทำให้ครอบครัวตัวเองเดือดร้อนอีก แหมๆอันนี้ “คุณพิม” ก็เม้าส์เกินนะคะ ระดับการ์ตูน เธอบินสูงซะขนาดนั้นแล้ว

ยิ่งเธอมีแฟนที่หล่อเหลาขั้นเทพอย่าง “โดม” ปกรณ์ ลัม แล้วเนี่ยนะ คงไม่ย้อนกลับลงไปเหลือแลผู้ชายธรรมดาๆอีกหรอก และโชคดีของน้องการ์ตูน อย่างนึงคือ พี่โดม ไม่ชอบอ่านข่าวสารให้อารมณ์ขุ่นมัว

ดังนั้น พี่โดม ก็เลยไม่ได้รับรู้ว่าสื่อจะขุดคุ้ยไปถึงไหน ใครจะออกมาแฉบ้าง มิหนำซ้ำความรักของทั้งคู่นับวันก็ยิ่งหวาน อย่างล่าสุดสงกรานต์ที่ผ่านมาพี่โดม นัด น้องการ์ตูน ไปม่วนชื่นที่เชียงใหม่โน่น มีคนขี้อิจฉาแอบฟ้องด้วยน้ำเสียงริษยาว่าเห็น พี่โดม ควง น้องการ์ตูน ไปเที่ยวผับเปิดใหม่แห่งหนึ่ง โดยไม่เห็นว่า น้องการ์ตูน จะมีอาการโศกสลดกับข่าวแต่อย่างใด

แล้วก็เหมือนโลกมันแคบ เพราะบังเอิ๊นจ๊ะเอ๋กับ น้องโบว์ “กิ๊กเก่า” ของ โดมพอดี พี่โดม เลยปรี่เข้าไปทักทายตามมารยาท แต่ น้องการ์ตูน เกิดรมณ์บ่จอย เดินเข้าไปวีนแตกกลางผับซะงั้น!

อักทั้งระหว่างที่อยู่เชียงใหม่ พี่โดมก็ต้อนรับขับสู้ น้องการ์ตูน อย่างดียิ่ง เพราะให้สิงที่คอนโดฯห้องเดียวกับที่ น้องโบว์ เคยอยู่กับ พี่โดม สมัยที่คบกัน และแน่นอน....เตียงก็เตียงเดียวกัน! แต่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยตาม โบว์ ไปด้วยอีกคนมั้ย...อันนี้ต้องลุ้นล่ะค่ะ!

ขอบคุณข้อมูล :

ฤทธิ์เดช "ไอ้จมูกโต"!!!

สะจายยยว่ะ!!! แม๊ทีซื้อหวยทำไม๊มีแต่ถูกแดก เจ๊เบนเคยลั่นวาจาอีกไม่นาน "อีหม้ายรุ่นเยาว์" จะต้องถูกผัวแก่งัดหลักฐานมาทวงสิทธิ์การปี้แหงมๆ แล้วมันก็เป็นจริง ผิดเพี้ยนไปนิดเดียวอีตรงที่ คนที่แฉกลับกลายเป็น "นังเมียหลวง" ที่หลงกลับมาซุกไอ้ปลาช่อนตัวเดิม

และขอบอกกกขอเตือนไว้นะยะหล่อน นี่แค่บทเรียนบทแรกที่ "นังเมียหลวง" ขอแก้แค้นเอาคืนสั่งสอน "หม้ายรุ่นเยาว์" แบบซอฟท์ๆ ยอมโชว์แค่รูปภาพแอนด์ใบเสร็จวันประกาศมีผัว ถ้าขืน "หม้ายรุ่นเยาว์" ยังแอ๊บตอแหลทำตัวเป็นคนดี วิ่งโร่ไปฟ้องศาลเรียกเงินหลายสิบล้าน ระวังเหอะ!!! แม่จะเพ่นกบาลหนักกว่าเก่า งัดไม้ตายมาเหยียบย่ำซ้ำเติมให้จมดิน

ซึ่งไอ้ไม้ตายที่ว่าก็คือหลักฐานการสูบเงินที่ "หม้ายรุ่นเยาว์" ผลาญผัวแก่จอมง่าวววว ไปอัพไซส์นมจากไข่ดาวเป็นลูกมะพร้าว แต่ที่เด็ดสะระตี่เห็นจะเป็นคลิปฉาวสะท้านเตียง ที่ "หม้ายรุ่นเยาว์" เล่นชู้สลับดุ้น จนเป็นเหตุทำให้ต้องเลิกผัวแก่ไปโดยปริยาย

เฮ้อ....เรื่องเบื้องหน้าที่ว่าฉาว แต่เบื้องหลังคาวยิ่งกว่าของพวกดารา เจ๊เบนเห็นแล้วโคตรรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากจะอ้วกวันละร้อยหน ซึ่งกรณีของ "หม้ายรุ่นเยาว์" เนี่ยแค่เป็นตัวอย่างแบบออเดิร์ฟเท่านั้น ที่สตอเบอร์รี่ตอแหล "หอยคัน" แต่แสร้งแอ๊บเป็น "หอยชั้นดี" มันยังมีอีกเยอะที่รอให้ขุดคุ้ย

แต่ใช่ว่าจะมีแต่ชะนีที่เก่งเรื่องซุกความลับ หนังหน้าปุๆ อย่างตัวผู้ "ไอ้จมูกโต" ก็เริ่ดใช่ย่อย ต่อหน้าทำเป็นตลกแดกพูดจิกกัดคนไปทั่วสารทิศ จนหวิดจะโดนไม้หน้าสามตีแสกหน้ามาหลายรอบ แต่ลับหลังนี่สิโคตรจะติสท์แตกแถมฟันหญิงไปทั่ว

อีตอนเกิดก็เกิดเป็นคนรากหญ้า กินส้มตำมาตั้งแต่ดุ้นไซส์เล็กกว่านิ้วก้อย ส่วนหน้าเรอะก็เน่าๆ อย่างกับโลงผุมาแต่อ้อนแต่ออก แต่พอจับไมค์กลายเป็นคนดัง ได้ดิบได้ดีเพราะคำพูดสัปดน "ไอ้จมูกโต" ก็อัพเกรดตัวเอง จากปลาช่อนหัวเหม็นกลายเป็นปลาช่อนหัวทอง เลือกแหย่ลงรูเฉพาะชะนีนางงามและไฮโซ (แม๊.....ทำตัวหล่อเลือกได้เนอะ)!!!

วันไหนไม่มีชะนีระดับอย่างว่า "ไอ้จมูกโต" ก็จะกริ๊งกร๊างใช้บริการนักศึกษาดีกรีดาวมหาลัย มาปรนเปรอรสสวาทเด้งหน้าเด้งหลัง งับหนอนขย่มตอทางด่วนซี้ดซ้าดแบบสะใจถึงกึ๋น ซึ่งบริการพิเศษที่ว่าเป็นช่วงโปรโมชั่นเลิก "นางงามลูกครึ่ง" ด้วยความเหงียนจัดเลยต้องหารูมาสนองเจ้าหนอนน้อยมันหน่อย

ทุกวันนี้ "ปลาช่อนจมูกโต" มีหลุมถาวรอย่าง "ไฮโซหน้ากะเทย" ให้เซาะแซะแหวกเวียนว่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งใครเห็นต่างก็อุทานเป็นคู่ "ดอกไม้กับหมาวัด" ชัดๆ งานนี้ก็ไม่รู้ "ยัยไฮโซหน้ากะเทย" หลงคารมหรือหลงหัวตอกันแน่ ถึงยอมให้ "ไอ้จมูกโต" เอาเสากระโดงจิ้มเล่น แถมยังเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าไปแบหอยให้จับอ้าทุกวันบนเตียงอีกต่างหาก

ล่าสุดขณะที่เจ๊เบนหนีความชั่วร้ายทางการเมือง ไปเปลี่ยนบรรยากาศนอนขย่มเอากะผัวถึงแดนซากุระ สายตาเจ๊เบนก็บังเอิญไปป๊ะเอากะหนังหน้าปุๆ ของ "ไอ้จมูกโต" ที่ควงเมีย "ไฮโซหน้ากะเทย" มาเดินเที่ยวเล่นอย่างเย็นอกเย็นใจ ประมาณว่ากูโกอินเตอร์หนีบเมียมาไกลขนาดนี้ คงไม่มีปาปารัซซี่เมืองไทยที่ไหนลงทุนตามมาปี้ถ่ายรูปได้แหงมๆ

ซึ่งถ้าแค่ควงกันมาขย่มตอชะโดเพียงลำพังสองคน เจ๊เบนคงไม่เอามาเล่าให้เมื่อยตุ้มหรอก แต่ที่ทำให้หอยคันปากคันจนต้องเอามาแฉสับแหลกเนี่ย ก็อีตรงที่ "ไอ้จมูกโต" มันหนีบเมียไฮโซมา พร้อมกับกะเตงอุ้มเด็กน้อยวัยไม่ถึงขวบมาด้วย โอ้วววว....แม่เจ้านี่มันแอบไปเบ่งลูกกันตอนไหนเนี่ย?!?

เหอะๆ อุตส่าห์หนีมาเอาเด็กในท้องเมียออก และเลี้ยงดูกันไกลถึงเมืองนอก เพื่อไม่ให้ตกเป็นข่าวฉาว แต่คงเป็นเวรกรรมที่ทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางไหน ถึงทำให้เจ๊ได้รู้ความลับ "ไอ้จมูกโต" แบบไม่ตั้งใจ เฮ้อ! เป็นความซวยของมันแท้ๆ เชียว!!!!

ขอบคุณข้อมูล :

“ชะนีเด็ก” อยากลองกระบองหนุ่ม!!

ก่อเรื่องฉาวโฉ่จน “เมียเก่าขี้วีน” ตัดหางปล่อยวัด สะบัดบ็อบใส่ไม่ใยดี แต่ก็ยังไม่สำนึก!! เที่ยวแบกกระบองร่อนหารูเสียบแก้คันไปเรื่อยไม่รู้จักพอ เรียกว่าคลำดูไม่มีหาง “ตี๋หล่อกระบองสั้น” เป็นคว้ามาควบดะ!!

ล่าสุดพลาดท่าไปคว้า “หม้ายรุ่นเยาว์” มาควงแก้ขัด แต่ดันเผลอใจหลงเสน่ห์ความขี้อ้อนและมารยา “ชะนีบ้านนอก” ที่กร้านโลกมาพอสมควร เจอมารยาหญิงแปดร้อยเล่มเกวียนเข้าไป ก็ทำเอา “ตี๋หล่อกระบองสั้น” ที่ว่าเก่งนักเก่งหนา หลงหัวปักหัวปลำเข้าขั้นโคม่า ถึงขนาดโกหกคนทั้งประเทศก็เอา...!!!

เรื่องของเรื่องคือ “ตี๋หล่อกระบองสั้น” ดันไปปิ๊งสาวแซ่บกิ๊กเก่า “นางเอกปากไว” เข้าให้ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะคุณเธอเจอแจ็กพ็อตโดนขุดคุ้ยอดีตอันเน่าเฟะ ที่ผ่านการแต่งงานอยู่กินฉันท์ผัวแก่-เมียเด็กกับ “ไอ้เฒ่าหัวงู” รุ่นราวคราวพี่ชายพ่อ! ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายก็มีเมียเป็นตัวเป็นอยู่แล้ว!!

จะว่าไปก็น่าสงสาร “หม้ายรุ่นเยาว์” อยู่ไม่น้อย เพราะหนทางที่หล่อนเลือกเดินมาจากความจำเป็นล้วนๆ เพราะครอบครัวตอนนั้นยากจนข้นแค้นแสนสาหัส ไม่มีแม้กระทั่งข้าวสารกรอกหม้อ หรือแม้แต่เงินจะเรียนหนังสือ หล่อนเลยยอมเสียสละจิ๋ม “แก้ผ้าเอาหน้ารอด”! ไปวันๆ

ยอมเอาความสาวและสดของเบี้ยน้อยหอยน้อยที่พกมาตั้งแต่เกิด ไปเทิร์นโปร์แลกเป็นเงินก้อนโตมาจับจ่ายใช้สอยอย่างสบายมือ จนกระทั่งเรียนจบก็ถึงเวลาถีบหัวส่ง “ไอ้เฒ่าหัวงู” ไปให้พ้นๆ ทาง...(เหมือนที่ดาราหลายคนเขาทำกันนั่นแหละ!!)

ก็แหม่...ไม่ได้จดทะเบียนกันซะหน่อย แน่นอนว่าไม่มีอะไรผูกมัดกันอยู่แล้ว ไม่เห็นจะยากเย็นอะไรที่ “หม้ายรุ่นเยาว์” จะสะบัดก้นงอนๆ ชิ่งไปคว้าโอกาสดีๆ ที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ

และนั่นก็คือ “เส้นทางสายบันเทิง” ที่หล่อนยอมตัดใจปล่อย “ผัวแก่กระจู๋เหี่ยว” ให้ตายคาบ้าน ก่อนจะโมดิฟายด์ตัวเองใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า!!

แต่ก่อนที่ “หม้ายรุ่นเยาว์” จะก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงเต็มตัว เธอถูกผู้จัดการส่วนตัวมือโปรเอาใส่ตระกร้าล้างน้ำจนเกลี้ยงเกลาไม่ เหลือกลิ่นคาว!! ทำเอา “หนุ่มแท้-หนุ่มเทียม” หลงกันหัวปักหัวปลำ…!

และรายล่าสุดที่เป็นข่าวครึกโครมว่ากำลังคั่วอยู่กับ “ตี๋หล่อกระบองเล็ก” ฝ่ายชายก็แม๊น...แมน! ซะเหลือเกิ๊น รู้อยู่แก่ใจว่า “หม้ายรุ่นเยาว์” เคยมีผัวเป็นตัวตนมาก่อน แต่ก็ยอมเซ้งต่อแบบไม่มีข้อแม้ แถมปิดปากเงียบไม่โพทนาสาธยายให้ฝ่ายหญิงเสื่อมเสียชื่อเสียงเลยแม้แต่น้อย แบบนี้หรือเปล่าน้อ??...ที่เรียกว่ารักจริงหวังฟัน เอ้ย! รักจริงหวังแต่ง!!! (ฮ่าฮ่าฮ่า!!!)

ในเมื่อฝ่ายชายไม่สนใจว่า “ถั่วปากอ้า” ของชะนีเด็กจะผ่านศึกสงครามมาช่ำชองแค่ไหน ความรักของทั้งคู่จึงพัฒนาไปเร็วปานติดจรวด ถึงขนาดเข้านอกออกในกันเป็นว่าเล่น เรียกว่าเปิดรับกันตลอด 24 ชั่วโมงชนิดเซเว่นฯ ยังอายเจ้าค่ะ

แต่จากนี้ไป คงต้องรอลุ้นกันละว่า “ไอ้เฒ่าหัวงู” ผัวแก่จะเกิดอาการหวงก้างขึ้นสมอง แล้วงัดเอาหลักฐานสำคัญออกมาโชว์เรียกสิทธิ์การปี้หรือเปล่า??? เพราะถ้าเป็นอย่างที่คาดเดาจริงๆ มีหวังเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบของ “หม้ายรุ่นเยาว์” และ “ตี๋หล่อกระบองสั้น” คงจะสั้นกว่ากระบองเป็นแน่..ค่าขอบอกกกก…!!!

ขอบคุณข้อมูล :

อีเตี้ยหมาตื่น หื่นจัด ขึ้นแท่นราชินีจอมแย่งปั๋ว

เชฟบ๊ะ...คุณชอบไหมล่ะ ไหมล่ะผู้ชาย เบื่อพวกดาราจริงๆ ชอบเอานิสัยต่ำๆ ตอนสมัยอยู่บ้านนอกคอกนา ติดตัวมาใช้ในวงการ ทำเอาส่วนใหญ่ปวดตุ้มไปตามๆ กัน แหม...ก็ ไอ้-อี พวกนี้มันชอบสร้างเรื่องแย่ๆ กันทั้งนั้น เรียกว่า ชอบสรรหา คนเลว มารวมตัวไว้ที่นี่ จนวงการบันเทิงกลายเป็น สวนสัตว์ ไปซะแล้ว เพราะมีแต่ พวก เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด ตบเท้าเข้าวงการกันเพียบ โดยเฉพาะเด็กหน้าใหม่ๆ ที่คิดว่าตัวเองดังเลยทำแต่เรื่องชั่วโดยไม่สนหน้าอินหน้าพรหม

ฟังแต่ละเรื่องของดาราแล้ว ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ อดสมเพชคนที่ชอบบริโภคข่าวบันเทิงไม่ได้ ที่จะต้องมานั่งรับรู้เรื่องบ้าๆ ให้เซ็งจิต ให้คิดซะว่าใครหน้าไหนมันก็ทำ เรื่องต่ำช้า ได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พระเอกดังคับฟ้า หรือ แค่ดาราตัวประกอบหน้าเงือก มันก็มี ความเสี้ยน กันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครจะ เก็บงำความอยาก ได้ดีกว่ากัน

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า นางเอกเตี้ยหมาตื่น ความหื่นขึ้นคอ ชื่อจีนสุดฤทธิ์หนึ่งพยางค์เท่านั้น เห็นน้องคนนี้ หน้าแบ๊วๆ ใสๆ แต่ใครจะรู้ว่าชีชอบ แย่งปั๋ว ของชาวบ้านเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกับถอดแบบ นางเอกบลูด๊อก ที่ชอบแย่งของรักของคนอื่นยังไงยังงั้นเลย แหม..เกิดเป็นชะนีมันก็ผิดมากพออยู่แล้ว ยังจะ แย่งดุ้น กันเองอีก มันช่าง น่าประจาน ให้ได้รู้กันเสีย เพราะสมัยนี้มันหมดยุคของ อีแอ๊บ อีกต่อไปแล้ว

เอาล่ะซิ จั่วหัวมาขนาดนี้ นังชะนีหน้าดำ เลยขอขุดคุ้ยประวัติชาติชั่วของ อีเตี้ยหมาตื่น คนนี้ มาตีแผ่ด้วยตัวเอง ชีเข้าวงการมาจากการเป็นเด็กเส้นของผู้บริหารค่ายดัง ลำพัง หน้าตาปลาร้าแดก อย่างชีเข้าวงการมาได้ก็บุญแล้ว เล่นละครเรื่องแรกชีก็ได้เป็นนางเอกสมใจอยาก แถมได้ประกบกับ พระเอกกระต่ายน้อย ในละครเรื่องที่มี เนื้อหาเกี่ยวกับพ่อแม่และผู้มีพระคุณ เรื่องนี้ไม่มีข่าวรักโปรโมทก็เพราะว่าฝ่ายชายไม่ พิศมัยบิ๋มเด็ก อีกอย่างพระเอกคนนี้มีไม่ป้ายแขวนขอ อีเตี้ยหมาตื่น เลยไม่สนใจ ไปอ่อยเหยื่อกับพวกที่มีเจ้าของแล้วดีกว่า

ความเสี้ยน เกินพิกัดของชี มันไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เลย เที่ยว ไล่จับผู้ชาย คนนั้นคนนี้ไปเรื่อย อีเตี้ยหมาตื่น ไปเที่ยวกลางคืนดันไปเจอกับ เออีหนุ่มหน้าหล่อ แห่งคลื่นวิทยุย่านอโศก ก็ดันถูกอกถูกใจ กระตุ้นต่อมเสียว เกิดปิ๊งปั๊งกันเข้าอย่างจัง หลังจากนั้นชีก็เริ่ม ปฎิบัติการยั่วสุดเหวี่ยง หวังเพียงว่า อยากจะได้ ดุ้นเลี่ยมทอง ของผู้ชายคนนี้มา กระแทกรู ครั้งสองครั้ง คงจะมันส์สมใจ แล้วชีก็เริ่มใช้ความเป็นดาราขอเบอร์ แล้ว โทรจิก ตลอดเวลา อ้างว่า อยากจะชวน เออีหน้าหล่อ คนนี้ไปถ่ายละครด้วยกันที่หัวหิน

แต่ดวงของคนมันกำลังจะซวยช่วยไม่ได้จริงๆ ช็อตเด็ดมันอยู่ตรงที่ อีเตี้ยหมาตื่น กำลังกดโทรศัพท์ไปหาผู้ชายอยู่นั้น ดันมี ชะนีแฟนตัวจริง นั่งขนาบข้างอยู่ด้วย ซึ่งแฟนของ เออีหน้าหล่อ ไม่ใช่คนธรรมดาด้วย เป็นถึง นักข่าวรายการดังกระจาย งานนี้ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ บอกแล้วว่า คนมันจะซวย ช่วยไม่ได้จริงๆ แต่ อีเตี้ยหมาตื่น ก็ไม่ละอาย ถึงมีเจ้าของแล้วใครจะทำไม คนมัน กระสัน อยากได้ปั๋ว มัวแต่นั่งอายอยู่ จะได้เอา มั้ยเนี่ย ชีเลย งัดไม้เด็ด แถมว่า ถ้าอยากดังก็ให้ไปถ่ายละครกับชั้นเดี๋ยวนี้ โอ๊ย..ชะนีสมัยนี้มัน ใจกล้าหน้าด้าน เสียจริง

เปิด ศึกแย่งดุ้น กันอีกคู่แล้ว ครั้งนี้ดูสมน้ำสมเนื้อหน่อย ระหว่าง ดาราจอมแอ๊บ มุมแดง กับ นักข่าวหน้าหวาน มุมน้ำเงิน ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ‘ด็อกเตอร์เห็ด’ ไม่อยากทายเลย แล้ว อีเตี้ยหมาตื่น ก็โทรไป ด่านักข่าว เจ้าของตัวจริงว่า ชั้นจะเอาผู้ชายคนนี้ มีใครจะกล้าทำอะไรมั้ย หน้าด้านดีแท้พ่อแม่คงไม่ได้สั่งสอนละมั้ง เรียกว่า เป็นกรรมของ อีเตี้ยหมาตื่น ด้วยที่มา แย่งปั๋ว นักข่าวคนนี้ ชีก็เลยถูก กระชากหน้ากาก ไปตามระเบียบ

ถ้าริที่จะ แย่งปั๋ว คนอื่น เห็นที อีเตี้ยหมาตื่น คงต้องทำให้เนียนมากกว่านี้ คงต้องดู นางเอกรุ่นพี่ร่วมค่ายเป็นตัวอย่าง เพราะรายนี้ขั้นเซียนอย่าบอกใคร นักข่าวกับดารามันก็เหมือน รองเท้ากับส้นตีน